จับใจความต้องการของตลาด
อุปสงค์
Demand,
อุปทาน Supply
ใครที่ไม่ได้ pass ชั้น ม. 5 มา
น่าจะพอจำใจความได้
อุปสงค์: ความต้องการซื้อ
อุปทาน: ความต้องการขาย
ปัจจัยมี 2 มิติ คือ ปริมาณและราคา
อุปสงค์จะปฏิภาคผกผัน
อุปทานจะแปรผันตรง
เกิดเป็นกราฟบันลือโลก
ที่ใช้อธิบายทฤษฎีทางการตลาดได้มากมาย
ข้ามเรื่องความยืดหยุ่น (Elasticity) ไปก่อนนะ
คนอธิบายก็ผจญภัยใต้ Mean มาเหมือนกัน
อธิบายกราฟอย่างย่อคือ
สินค้าหายาก (Premium) ก็ราคาแพง
สินค้าทั่วไป (Commodity) ก็ราคาถูก
ในการทำธุรกิจ เราจึงต้องกำหนด STP
(Segmentation, Targeting, Positioning)
อีกทั้ง Differentiation ให้กับกิจการ
และสินค้าของเรา
เพื่อทำให้สินค้าของเราเป็นของพิเศษ
เฉพาะตัวและเป็นที่ต้องการของตลาด
เพราะฉะนั้นจึงต้อง
จับกลุ่มเป้าหมายให้ถูกต้อง
วางตำแหน่งทางการตลาดให้ชัดเจน
ค้นหาความต้องการที่แท้จริงของตลาด
แตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อขายได้ในราคาที่ดี
เพิ่มยอดขายโดยการเพิ่มปริมาณการใช้งาน
และขยายช่องทางการจำหน่ายต่อไปในอนาคต
'เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง'
แนวคิดนี้ยังคงใช้การได้เสมอ
ไม่ว่าสถานการณ์ตลาดจะเป็นเช่นไรก็ตาม
ใครที่ไม่ได้ pass ชั้น ม. 5 มา
น่าจะพอจำใจความได้
อุปสงค์: ความต้องการซื้อ
อุปทาน: ความต้องการขาย
ปัจจัยมี 2 มิติ คือ ปริมาณและราคา
อุปสงค์จะปฏิภาคผกผัน
อุปทานจะแปรผันตรง
เกิดเป็นกราฟบันลือโลก
ที่ใช้อธิบายทฤษฎีทางการตลาดได้มากมาย
ข้ามเรื่องความยืดหยุ่น (Elasticity) ไปก่อนนะ
คนอธิบายก็ผจญภัยใต้ Mean มาเหมือนกัน
อธิบายกราฟอย่างย่อคือ
สินค้าหายาก (Premium) ก็ราคาแพง
สินค้าทั่วไป (Commodity) ก็ราคาถูก
ในการทำธุรกิจ เราจึงต้องกำหนด STP
(Segmentation, Targeting, Positioning)
อีกทั้ง Differentiation ให้กับกิจการ
และสินค้าของเรา
เพื่อทำให้สินค้าของเราเป็นของพิเศษ
เฉพาะตัวและเป็นที่ต้องการของตลาด
เพราะฉะนั้นจึงต้อง
จับกลุ่มเป้าหมายให้ถูกต้อง
วางตำแหน่งทางการตลาดให้ชัดเจน
ค้นหาความต้องการที่แท้จริงของตลาด
แตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อขายได้ในราคาที่ดี
เพิ่มยอดขายโดยการเพิ่มปริมาณการใช้งาน
และขยายช่องทางการจำหน่ายต่อไปในอนาคต
'เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง'
แนวคิดนี้ยังคงใช้การได้เสมอ
ไม่ว่าสถานการณ์ตลาดจะเป็นเช่นไรก็ตาม
Comments