Siriwach Suansawat

มนุษย์เกิดมาต้องทำอะไร คงไม่บังเอิญที่ในหนึ่งวัน เรามีเวลา 8 ชั่วโมงถึง 3 ครั้ง เท่าๆ กับทุกคนในโลก รวมทั้งบิล เกตต์ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก สตีฟ จ็อบส์ วอร์เร็นท์ บัฟเฟต อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ " งาน สังคม ครอบครัว ตัวเอง" จะแบ่งเวลาอย่างไรก็แบ่งไป แต่ต้องให้สมดุล ทำงานมากไป ครอบครัวก็พัง ตัวเองก็พัง ไม่ได้จะบอกว่า ให้ลดความสำคัญของการทำงาน อย่างไรก็ต้องกิน ต้องใช้ อย่างไรก็ต้องการความก้าวหน้า จะได้มีโอกาสทำสิ่งที่มีคุณค่ามากขึ้น เพิ่มรายได้ เพิ่มความสามารถในการจับจ่าย ให้กับครอบครัวที่ต้องขยายตัวในอนาคต สิ่งที่สำคัญสูงสุด     ไม่จำเป็นว่า จะต้องใช้เวลากับสิ่งนั้นมากสุด การทำงาน         ยิ่งเสร็จเร็วยิ่งดี ใช้ชีวิตกับครอบครัว ยิ่งมากยิ่งดี สังสรรค์กับเพื่อนฝูง   มากไปก็ไม่ดี งานอดิเรก สันทนาการ ทำพอดีพอดี พักผ่อนนอนหลับ มากหรือน้อยไปก็ไม่ดี ปรับกันเองนะครับ แต่ละคนไม่เหมือนกัน การ ' วางแผน ' ก็คือการ ' คิด ' จะทำงานหรือใช้ชีวิตก็ต้องมีการวางแผน การ ' คิด ' เป็นเรื่องง่ายๆ ที่คนมักจะไม่ทำ คนเราก็แปลก รู้ทั้งรู้ว่าดี ก็ย

มีโอกาสได้เรียนรู้จากรุ่นน้องนักบริหาร ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งแรงกดดันสูง ปัญหารอการสะสางมีมากมาย หนทางเดียวที่จะทำได้ คือ ' ตัด ' ' ตัด ' เพื่อโต การ ' ต่อ ' ในสภาวการณ์เช่นนี้ คงไม่เป็นการดีนัก ชวนให้นึกถึงคำโบราณ " รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ" หากต้องการเห็นผลลัพธ์ใหม่เกิดขึ้น ทำดังเช่นที่เคยทำ ก็คงจะไม่สัมฤทธิ์ผล หนทางเดียวที่ทำได้ คือต้อง "เปลี่ยนแปลง" ' คิดใหม่ ทำใหม่ ' ' มุ่งเน้น ' เพื่อเข็นความเติบโต ยากเข็ญ เมื่อ ' เข่น ' ให้โต ประวัติศาสตร์มีไว้ให้เรียนรู้ ธุรกิจในยุคก่อนเติบโตขึ้นมาได้ ด้วยพื้นฐานที่มั่นคง กรุงโรมไม่สามารถสร้างเสร็จได้ในวันเดียว การวางแผนและลงมือทำอย่างถูกวิธี ก็สามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์ได้ มุ่งเน้นเกาะติดเฉพาะส่วนที่สำคัญ จะสร้างประวัติศาสตร์ อย่างผู้บุกเบิก หรือเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพื่อสร้างสิ่งใหม่ ในสถานการณ์เช่นนี้           เป็นโอกาสดีที่ทำได้ ย่ำตามรอยเท้าเดิม ก็เดินลงเหว หันหัวไปทิศทางใหม่ ไม่ลงเขาก็เข้าป่า แต่ก็ดีกว่าเดินไปตาย ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก

ไม่มีใครสามารถประสบความสำเร็จได้ โดยไม่มีแรงกระตุ้นหรือความช่วยเหลือ จากบุคคลหรือสรรพสิ่งแวดล้อม แน่นอนว่า ไปคนเดียว ไปได้เร็วกว่า แต่ไปด้วยกันหลายๆ คน   ไปได้ไกลกว่า ยืนยันด้วยหลักทางฟิสิกส์ เมื่อแรงที่กดเท่ากับแรงที่ยก จะเกิดการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า และเมื่อบวกด้วยแรงขับเคลื่อน การเดินทางก็ราบรื่นดังปุยไหม พี่น้องตระกูลไรท์ เอาเลือดเนื้อ สังเวยการเรียนรู้ให้กับพวกเรามาแล้ว เป็นไปได้มาก ที่ผู้เดินทาง จะควบคุมทิศทางลมไม่ได้ ลมจะมา พายุจะหมุน ไต้ฝุ่นจะก่อตัว เมฆมืดมัวจะตั้งเค้า เราก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป เมื่อใดเจอหลุมอากาศ ที่เกิดจากลมใต้ปีกที่เบาบาง นักเดินทางก็ใจหายใจคว่ำได้เหมือนกัน เปรียบดั่งผู้นำขาดแรงสนับสนุน จะเดินถอยหลังได้อย่างไร ในเมื่อโลกนี้ไม่มีที่ว่างให้กับคนที่หยุดเดิน เดินบนดิน     หยุดเมื่อไร   ก็หล่นไปท้ายแถว ถ้าเดินอากาศ ก็โหม่งโลกเหมือนนกปีกหัก จุดเริ่มต้น เกิดได้จากคนเดียว หากจะบรรลุเป้าหมายดังใจหวัง ก็ต้องอาศัยทีมงานสามประสาน นกไร้ขน คนไร้เพื่อน บินได้ไม่สูงหรอกครับ หน้าแรก             สารบัญเนื้อหา

" เจ้านายอยู่ดาวอังคาร พนักงานอยู่ดาวโลก" รู้สึกอย่างนั้นกันบ้างไหม ชาวโลกทั้งหลาย เหมือนอยู่ใกล้กัน     แต่ก็ยังรู้สึกว่าห่างไกล จะคุยกันรู้เรื่องไหม     ถ้าไม่พยายามเข้าใจ ทุกวันนี้ ภาษามีส่วนสำคัญต่อความก้าวหน้า โดยเฉพาะภาษาที่สอง หรือภาษาต่างประเทศ สำคัญกว่านั้นคือภาษาของนักบริหาร เปรียบเสมือนภาษาต่างดาวในความรู้สึก ที่ใครรู้ก็ยิ่งได้เปรียบ ความสำคัญมันไม่ใช่ความเชี่ยวชาญ ในการใช้ ' ภาษา ' แต่มันคือ ' การสื่อสาร ' ถ่ายทอดความเข้าใจด้วยการปฏิบัติ ไม่คิดจะขึ้นไปเหยียบดาวอังคารกันบ้างหรือไง กดดัน เครียด เหนื่อย ยาก ท้าทาย รายได้สูง อุปสรรคจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเราเรียนรู้มามากพอ เรียนรู้การเป็นผู้บริหารด้วยการทำตามคำสั่ง เมื่อผู้บริหารมีหน้าที่สนองนโยบายให้ลุล่วง ความจริงก็คือ ไม่มีเจ้านายคนไหนสั่งให้ลูกน้องทำ ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ผลของการปฏิบัติงานคือความรับผิดชอบ ของเจ้านาย 100% ไม่อาจหลีกเลี่ยง หากผู้ปฏิบัติงานไม่เชื่อฟัง ผู้บริหารก็ไม่อาจลุล่วงตามนโยบาย เกิดความเสียหายต่อองค์กรโดยรวม และต่อทีมงานอย่างประมาณค่ามิได้ ปัญหามา ป

" บริษัทไม่ต้อง ใช้การตลาด กับลูกค้าหรอก จริงใจกับลูกค้าก็พอ" สุดยอดอมตวาจาจากสุดยอดลูกค้าในดวงใจ ผ่านมา 21 ปี ไม่คาดว่าจะกลายเป็น สุดยอดกลยุทธ์การตลาดในปัจจุบัน ที่ว่าด้วยการมุ่งเน้นการผลิต การขาย การตลาด และเจาะจงความต้องการรายบุคคลในที่สุด คอการตลาดยุคคลาสสิคคงพอจำกันได้ จะเป็น ' เซล ' ไก่การาคาถูก หรือ ' นักธุรกิจ ' มูลค่าสูง มันอยู่ที่วิธีคิด และขั้นตอนการปฏิบัติ โปรดระลึกไว้เสมอว่า พวกเราเป็นนักธุรกิจ ทุกวันนี้ต้องเอาความจริงมาว่ากัน ถ้าลูกค้าจับได้ว่าหลอกลวง ตายยังดีเสียกว่า เพราะหากินในธุรกิจนี้ไม่ได้อีกเลยตลอดชีวิต เข้าใจตรงกันก่อนว่า เกษตรกรไม่ใช่ ' รากหญ้า ' แต่เป็น    ' รากของแผ่นดิน ' เป็นบุคคลสำคัญระดับประเทศ ที่จะช่วยชี้ทิศทางอนาคตของบ้านเมืองเรา ' ร้านค้า ' ก็คือคู่ค้าหรือผู้ร่วมธุรกิจ ที่จะช่วยส่งผ่านกลยุทธ์ทางธุรกิจของเราสู่ตลาด ผลประโยชน์ที่คู่ค้าได้รับคือ    ' โอกาสทางธุรกิจ ' ไม่ใช่ค่าตอบแทน   หรือรายการส่งเสริมการขาย อย่าไปจริงจังกับมันมาก มันไม่ใช่   ' ความยั่งยืน '

เชื่อสิ ... ความสุขมันวัดได้ ความสุขวัดได้จากสัดส่วนของ สิ่งที่หามาได้   ต่อสิ่งที่ต้องการ เกิดเป็นสมการสร้างความสุข ' ความสุข = สิ่งที่หามาได้/ สิ่งที่ต้องการ ' ความสุขจะมีมาก เมื่อหาได้มากกว่าความต้องการ 100 = 100/ 1 มั่งคั่ง ความสุขจะมีน้อย เมื่อหาได้น้อยกว่าความต้องการ 0.1 = 10/ 100 ขาดแคลน ความสุขจะไม่มีเลย เมื่อไม่สามารถหาสิ่งใด มาตอบสนองความต้องการได้เลย 0 = 0/ 1 ยากจน ในขณะที่ความสุขจะมีไม่สิ้นสุด เมื่อไม่มีความต้องการเลย Infinity = 1/ 0 ปล่อยวาง เราเลือกได้ว่าจะสุขหรือทุกข์ ถ้าจมอยู่กับความทุกข์ แล้วยังรู้สึกดีกับชีวิต ก็ทำเลย   ใครจะไปห้าม     ชีวิตเป็นของเราเอง ปรับมุมคิดนิดเดียว ผลลัพธ์ต่างกัน 180 องศา เหรียญมีสองด้าน หงายหน้าไหนก็ได้ ที่ทำให้เรามีความสุข หน้าแรก             สารบัญเนื้อหา

เป็น ' คนดี ' กับ ' คนเก่ง ' ต่างกันนิดนึง แค่ตัวคูณลำดับเดียว ถ้ากำหนดสิ่งที่กระทำ ตามขั้นของความสามารถ 0 - 9 จากน้อยไปหามาก 0 = ไม่ทำงาน ไม่มีความสามารถ 1 = ทำได้งานน้อย ความสามารถน้อย . . . 9 = ทำได้งานมาก ความสามารถสูง ทัศนคติของผู้อื่นที่มีต่อเรา 0 = มองในแง่ลบ 1 = มองในแง่บวก เก่งขั้นเทพ แต่ไม่มีใครชอบ จะได้สมการแบบนี้ 9 x 0 = 0 เก่งไม่มาก แล้วคนยังไม่ชอบอีก 1 x 0 = 0 เก่งไม่มาก แต่คนรัก 1 x 1 = 1 เก่งมาก ใครๆ ก็รัก 9 x 1 = 9 ไม่ทำงาน แต่คนรักมาก 0 x 1 = 0 โลกต้องการคนดี แต่ชื่นชมคนเก่ง ไม่ต้องเลือกจะเป็นหรอก ว่าจะเป็น ' คนดี ' หรือจะเป็น ' คนเก่ง ' เป็นมันทั้งสองอย่างนั่นแหละ ' เก่งมาก ' หรือ ' เก่งน้อย ' ไม่สำคัญ ขอให้เป็นคนดีก็พอ หน้าแรก             สารบัญเนื้อหา

" ผลิตภัณฑ์ ( Products)" ในปัจจุบัน ต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน ยุคนี้ข้ามช่วง Marketing era มาไกลแล้ว Production era           V     Sales era           V  Marketing era           V  Customers era ความต้องการ ( Want)  ของผู้บริโภค มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ในแง่ของบุคคล ( Individualization) ใครมองเห็นหนทางแก้ไขปัญหา   (Solution) ให้กับผู้บริโภคก่อน คนนั้นก็ล่วงหน้าไปก่อน (Absolutely innovative leader) เมื่อทุกวันนี้ สิ่งที่เรียกว่า Products แทบจะแยกไม่ออกกับ สิ่งที่เรียกว่า Solutions แล้ว หน้าแรก             สารบัญเนื้อหา

คุมเกมในตลาดให้อยู่ในมือ เราจะสามารถควบคุมทุกอย่างไว้ได้ แต่ก่อนจะถึงตรงนั้น ต้องผ่านอุปสรรคอีกมากมาย เชื่อว่าทุกท่าน เคยตกอยู่ในสถานการณ์ ' ลำบากใจ ' หรือ ' กลืนไม่เข้า คลายไม่ออก ' ต้องลงมือทำทั้งที่รู้ว่าจะเกิดปัญหาตามมา ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะมันติดที่ตรงเป็น ' หน้าที่ ' ทำแล้วเกิดผลกระทบกับคนอีกหลายคน โดยเฉพาะคู่ค้า แล้วยังต้องทำอะไรอีกมากมาย เพื่อคลายปมสถานการณ์ เสียงก้องเบาๆ ในหัว แสงสว่างเล็กๆ ในใจ ทำให้รู้เพียงว่าเมื่อทำลงไปแล้ว ท้ายสุดจะเกิดผลดีกับทุกฝ่าย ไม่ทำก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เชื่อเถอะ ความปรารถนาดี ที่เกิดจากการคิดดี จะเกิดสิ่งดีตามมา คนทำงานท่องไว้เลย " ทำมาก ผิดมาก ทำน้อย ผิดน้อย ไม่ทำ ไม่ผิด" เรียนรู้จากสิ่งที่ทำลงไป แก้ไขเมื่อผิดพลาด ไม่ต้องขออภัยจากใคร หมั่นให้อภัยตัวเอง ยืดหยุ่นต่อผู้อื่น เคร่งครัดต่อตนเอง ใช้ความปรารถนาดีต่อผู้อื่นเป็นเครื่องนำทาง ' คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ ' ไม่มีใครเข้าใจเรา เท่ากับตัวเราเอง คนอื่นทำ ก็ไม่เหมือนตัวเองลงมือทำ ' คิดดี พูดดี ทำดี ' นำมาซึ

" ปลาตัวใหญ่ ตายน้ำตื้น" เป็นบริบทที่ว่าด้วยความเรียบง่าย การดีลธุรกิจ ยิ่งมีมูลค่าสูง ยิ่งต้องใช้ความเรียบง่าย ชัดเจน ตรงไป ตรงมา ไม่ซับซ้อน ความซับซ้อน นำมาซึ่งความยุ่งยาก ในการตัดสินใจของคู่ค้า และความสับสนของตัวเอง ยิ่งซับซ้อนมาก   สับสนมาก ขนาดธุรกิจก็ยิ่งเล็กลงมาก นั่นคือ โอกาสของธุรกิจ ก็ยิ่งเป็นไปได้ยาก ขนาดของชีวิต กำหนดด้วยขนาดของความคิด คิดใหญ่ ก็ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คิดเล็ก ชีวิตก็ได้พานพบแต่สิ่งเล็กน้อย ตลอดชีวิตไม่เคยเผชิญกับเรื่องยุ่งยาก ถือว่าเป็นโชค ที่ไม่ต้องเป็นทุกข์ แต่ไม่ถือเป็นชัย ที่ได้พบหนทางดับทุกข์ มรรคผลของความสำเร็จ เกิดจากความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งพบหนทางของความเรียบง่าย ในการมุ่งสู่ความสำเร็จ ก่อนจะพบหนทางดับทุกข์ ก็ต้องเป็นทุกข์มาก่อน มันเป็น ' กระบวนการ ' ' ความล้มเหลว ' เป็นมารดาของ ' ความสำเร็จ ' ' ความซับซ้อน ' เกิดจาก ' ความเรียบง่าย ' หลายประการมารวมกัน เรียนรู้ที่จะผิดพลาดอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสรรสร้างหนทางเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆ อย่างมีสติ หน้าแรก