Posts

Showing posts from April, 2018

ช้าๆ แต่รอบจัด

ประสบการณ์ในการเป็นนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ ( Product Developer) ที่ร้านขายของดีมาก ว่างจัด ไม่รู้จะทำอะไรก่อนดี นั่งหลับๆ ตื่นๆ เลยหวนคิดถึงอดีต จะคิดถึงรักแรกก็นานจนลางเลือนเต็มที เลยเอาใกล้ๆ หน่อยดีกว่า คิดถึงงานละกัน งานที่ทำมาตลอด 10 กว่าปีนี้คงไม่พ้นงาน PD ในธุรกิจเมล็ดพันธุ์ที่เคยขี้ฝอยไปก่อนหน้านี้ไม่นาน ก่อนอื่นมารู้จักกรอบการทำงาน ( Framework) ของนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ก่อน จะได้เข้าใจตรงกัน งานพัฒนาผลิตภัณฑ์ ( Product Development) เป็น 1 ใน 4 กิจกรรมทางการตลาดที่เรียกกันว่า Product/ Market Expansion Grid เป็นการค้นหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ( New Products) มาขายในตลาดเก่า ( Exist Markets) หรือตลาดที่มีอยู่แล้ว แล้ว PD ( ขอเรียกสั้นๆ เลยละกัน) ต้องทำอะไรบ้าง ส่วนใหญ่ก็ลงแปลงทดสอบสายพันธุ์ใหม่เปรียบเทียบกับสายพันธุ์ที่เป็นผู้นำในตลาด ซึ่งจะทำกันในแปลงปิด ( Internal Trial) ในสภาพแวดล้อมต่างๆ จะคัดเลือกสายพันธุ์ให้กับสำนักงานขายที่ตั้งอยู่ในประเทศไหนๆ ก็ทำแบบนี้หล่ะ ดูๆ ไม่น่าจะยากใช่ไม๊ ถ้าจะเอาแค่สูสี คุณสมบัติพอๆ กัน แล้วปล่อยให้ฝ่ายขายมาหวดกันในตลาด ใช้กลยุทธ์การขายและการตลาดเข้าช่วย โดยการลด

จุดจบของโคขุน (พล)

" เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล" คนทำงานทุกคนน่าจะเข้าใจวลีหรือสุภาษิตข้อนี้เป็นอย่างดี ไม่น่าเชื่อว่าในระยะสิบปีย้อนหลัง ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้กับคนใกล้ตัวมามากกว่าสิบกรณี นับเฉพาะที่เรารู้จักกันนะ ไม่นับที่ผมรู้จักเขาแต่เขาไม่รู้จักผม มีตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงสุด ระดับบริหารจัดการ จนกระทั่งระดับปฏิบัติการ ดูมันเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายสำหรับผู้ที่ถูกกระทำ ที่เฝ้าครุ่นคิดว่าได้ทำอะไรผิดไป ไม่ผิดหรอกครับ แค่ไม่ถูกใจ แล้วก็ถูกยัดเยียดข้อหาที่เราไม่สามารถหาข้อโต้แย้งได้ เพราะมันไม่มีเหตุผล หรือข้ออ้างใดๆ ที่จะเอามาอธิบายได้เลยน่ะสิ สุดท้ายก็ต้องเดินจากลาสถานที่ทำงานที่รักโดยจำนนแบบงงงง คนที่ตั้งหลักไว ก็ไปต่อเร็ว ไม่เสียเวลาแม้แต่จะคิดหาเหตุผล เพราะรู้ว่า นี่คือสัจธรรมของลูกจ้าง ไม่ช้าก็เร็วแค่นั้นเอง มันอาจไม่ใช่ข้อกล่าวหาที่ผู้บริหารพร่ำบอกว่ามันเป็นความผิด ทั้งๆ ที่ดูแล้วมันก็ไม่ได้ผิดมากมายอะไร   หรือเคยเกิดขึ้นแล้ว   แต่ก็เฉยๆ กัน เพราะเหตุผลที่แท้จริงมันบอกไม่ได้ ผลเสียจะตามมาอีกมากมายเกินคาดเดา ถ้ายังจำได้ ผมเคยพูดถึงหนังสือ "ทำอย่างไรไม่ให้ถูกบี

ดูแลตัวเองอย่างไรให้รอดจากคลื่นเศรษฐกิจในปัจจุบัน

ในกรอบเล็กๆ ของหัวข้อข่าว รายงานโดยสำนักข่าว Bloomberg Monsanto ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจเมล็ดพันธุ์ เจรจาขอซื้อกิจการจาก Syngenta AG ยักษ์ใหญ่เบอร์ 1 ในธุรกิจเคมีเกษตร เบอร์ 3 ในธุรกิจเมล็ดพันธุ์ ที่เม็ดเงิน   43  พันล้านเหรียญ ( เสียงร่ำลือว่าแพงกว่านี้เยอะ) ดูเหมือนจะยังไม่จบการเจรจา ในขณะที่คนไทยกำลังกลัวเซเว่นครองเมือง Monsanto & Syngenta  กำลังจะครองโลก ด้วยมูลค่าทางธุรกิจที่มากกว่ายอดขายเซเว่น ทุกสาขาในประเทศไทยรวมกัน รหัสพันธุกรรม , ชีวสารสนเทศศาสตร์ , สิทธิบัตร จำคำเหล่านี้ไว้ครับ เดี๋ยวก็คุ้นไปเอง ในหนังสือ "อัศวินคลื่นลูกที่สาม" กล่าวไว้ไม่ผิด " กิจการทุกอย่างในโลก จะถูกขับเคลื่อนโดย Enterprises ขนาดใหญ่เพียงไม่กี่บริษัท ในอนาคตที่จะถึงนี้" ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "ผูกขาด" อนาคตที่เขาว่า มันมาถึงแล้วครับ ไม่ช้า ไม่เร็วเกินไป มาตามเวลาพอดี ผู้บริโภคอย่างเราๆ จะต่อต้านโดยการ ไม่ซื้อ ไม่บริโภคเจ้านี้ ไปซื้อเจ้าอื่นก็ได้ แต่มันจะเป็นเพียงการย้ายกระเป๋าของผู้ขาย จากกระเป๋าหน้าไปเข้ากระเป๋าหลังเท่านั้นเอง เข้าทำนอง "เสีย

จด-จำ นำชีวิต

เป็นความตั้งใจตั้งแต่ตอนที่เรียนจบใหม่ๆ แล้วว่าจะเป็นคนช่างจดมากกว่าช่างจำ เพราะรู้ตัวว่าขี้ลืม คิดไม่เก่ง ไม่มีใครช่วยได้ เลยจำเป็นต้องขยัน แรกๆ ก็จดมันทุกอย่าง เพราะซ้อมเล็คเชอร์มาดีตั้งแต่ม. 4 จดมันทุกคำพูดที่ลูกค้าพูด เอาสมุดโน้ตเล่มเก่าๆ มานั่งอ่านยังขำไม่หาย จดไปได้ยังไงกัน (วะ) แต่ก็ทำให้ได้รู้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ามากขึ้น วันเดือนปีเกิด อาหารที่ชอบ ชื่อลูก ชื่อเล่นซ้อ และอื่นๆ จิปาถะ รวมทั้งข้อมูลการขายของลูกค้า เพราะจังหวะนั่งคุย สอบถามแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการเสนอขาย ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วมาก ข้อมูลใหม่ๆ จะพรั่งพรูออกมาอย่างต่อเนื่องจนคิดตามไม่ทัน จดไว้ก่อนเพื่อเอามานั่งอ่านทบทวนภายหลัง แล้วจึงกลับมาทำการบ้าน ประมวลผล วิเคราะห์ตลาด เขียนรายงานส่งเจ้านายเอาตัวรอดไปอีกเดือนได้ การบันทึกมีประโยชน์หลายๆ อย่าง ในแง่ของการทำงานที่เป็นนักขาย นักการตลาด ทำให้รู้จักลูกค้าในเชิงลึกมากขึ้น ทั้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร สินค้าที่ขาย ข้อมูลตลาด คู่แข่งขัน ช่องทางการขาย ถ้าเป็นเกษตรกรก็รู้พืชที่ปลูก พื้นที่ปลูก ฤดูกาล วิวัฒนาการของตลาด พฤติกรรมของร้านค้าและเกษตรกรที่ยังคงเดิมหรือเปลี่ยนไป ซึ

ค้นหา เรียนรู้ ดูใจตนเอง

เปิดโลกกว้างสร้างประสบการณ์หลากหลายให้กับชีวิต เคยมานั่งนึกถึงตัวเองกันบ้างไม๊ครับ นอกจากงานประจำและภารกิจที่ทำกันอยู่ทุกวี่ทุกวัน ตัวเราทำอะไรบ่อยที่สุด ตัวเราชอบทำอะไรมากที่สุด ตัวเราสามารถทำอะไรได้ดีที่สุด ตัวเราชอบเรียนรู้เรื่องอะไรมากที่สุด ตัวเราทำอะไรแล้วรู้สึกมีความสุขมากที่สุด อะไรที่ตัวเรามีความกระหายที่จะทำโดยไม่สนใจผล อะไรคือสิ่งที่ทำให้ตัวเรารู้สึกตื่นตัวและมองเห็นเป้าหมาย อะไรคือภาพของตัวเราที่มองเห็นในวันที่เกษียณจากงานที่ทำ อะไรคือเป้าหมายสูงสุดของตัวเราหากไม่ได้ทำจะเสียใจไปทั้งชีวิต ตัวเราทำอะไรแล้วไม่รู้สึกเบื่อหน่ายถึงแม้จะผิดพลาดอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตัวเราสามารถทำอะไรได้นานๆ โดยไม่รู้สึกว่าเวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว คนรอบข้างชอบมาถามเรื่องอะไร หรือขอร้องให้ตัวเราช่วยทำสิ่งนั้นอยู่บ่อยๆ ฯลฯ คำถามนอกจากนี้ตั้งกันเองนะครับ ผมตั้งได้แค่นี้ก็แทบจะกัดลิ้นตายแล้ว เสียดายเวลาเหลือเกิน มัวแต่วิ่งตามหาอะไรอยู่ก็ไม่รู้ที่มันไม่ใช่ของเรา ที่ผ่านมาเคยถามตัวเองสักคำถามข้างต้นบ้างหรือยัง เสียเวลานิดเดียว จะได้ไม่ต้องหลงทางไปทั้งชีวิต ผมเองก็เพิ่งมาถามตัวเองด้วยคำ