วิสัยทัศน์ของนักแก้ปัญหา
ต้องสารภาพเลยว่างานนักเกษตรภาคสนามต้องใช้จินตนาการสูงมาก
ทั้งตรวจโรค แมลง ตรวจสภาพสิ่งผิดปกติของพืชปลูกในแปลงเกษตรกร
เกษตรกรส่วนใหญ่ก็บอกข้อมูลไม่หมด นึกจะลองภูมินักเกษตร
ก็บอกมาครึ่งๆ กลางๆ ปล่อยให้นักเกษตรวิเคราะห์ท่ามกลางความมืดมิด
ความรู้ที่ได้จากในห้องเรียนเอามาใช้จริงๆ ไม่ถึง 10% ...
... ยืนยันอีกครั้งว่าแค่ 10% !!!
ต้องวาดภาพในอากาศว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่เราจะมาถึงแปลง
นอกจากเดินสำรวจ ก็ต้องใช้วิธีสัมภาษณ์จากเกษตรกรทุกมุมที่เราพอจะนึกออก
ปัญหาจริงๆ ก็แทบจะค้นไม่เจอจากในตำรา
ยอมรับโดยดุษฎีว่าอาจารย์ที่แท้จริงของเราคือเกษตรกร
อีกทั้งสภาพแวดล้อมในแปลงปลูก บ้านเราก็มีความหลากหลายเสียเหลือเกิน
แต่สิ่งที่ครูบาอาจารย์สอนเรามาในห้องเรียนคือการช่วยเหลือเกษตรกรด้วยหัวใจ
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยี social media มันก้าวหน้า
นั่งดูภาพแล้ววิเคราะห์ปัญหาได้หมดจดก็นับว่าเป็นเซียน
วิเคราะห์ผิดพลาดแล้วโดนโห่หน่ะเรื่องเล็ก
นักเกษตรตัวจริงโดนกันมาสารพัดแล้ว ผมเองก็เคยยืนต่อหน้าปืนลูกซองมาแล้ว
แต่สิ่งที่เราได้รับมันยิ่งใหญ่กว่านั้น ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาให้เกษตรกรได้
แต่เราสามารถทำให้เกษตรกรยอมรับในความพยายามที่จะช่วยเขา
จากในภาพตัวอย่าง ถ้ายืนมองแค่หัวแปลง ก็คงจะบอกได้ว่าพริกแปลงนี้ก็ดูแลได้ดี
พริกอายุไม่เกิน 2 เดือน อีกหน่อยเกษตรกรก็คงได้ตังค์ ดีใจกับเขาด้วยจริงๆ
แต่จริงๆ นี่คือพริกอายุ 6 เดือน ห๋า ... !!! ทำไมมันต้นเล็กแค่นี้ แล้วทำไมยังไม่ติดลูก
ถ้าตกใจ กังวลใจ กลัวตอบพลาด ไม่ยากครับ ...
เปลี่ยนไปคุยเรื่องราคาผลผลิต ดินฟ้าอากาศ ลูกเต้าเข้าโรงเรียนหรือยัง
แล้วอาจจะพลิกไปคุยการเมือง จุดประกายไฟรักชาติให้เกษตรกรลืมเรื่องในแปลง
แล้วค่อยๆ ลากเกษตรกรออกมาจากแปลง เดินไปส่งเราที่รถ ไหว้งามๆ สตาร์ทรถ
หยอดอีกนิดหน่อย ... แล้วผมจะมาเยี่ยมอีกน๊าาาาาา ... แล้วก็หายหัวไปตลอดกาล
ถ้าตั้งใจจะมาขายของ ก็เก็บข้อมูลปัญหา สอบถามให้เกษตรกรรู้สึกว่าเราสนใจ
แล้วก็นำเสนอทางแก้ปัญหาด้วยการซื้อผลิตภัณฑ์ชั้นเทพที่บังเอิญติดหลังรถมาด้วย
(ไม่ได้ตั้งใจเอามาขายนะเออ แค่แวะมาเยี่ยม แต่เห็นมีปัญหา ก็เลยอยากช่วย)
บอกตรงๆ ตอนลงแปลงนี้และรับทราบข้อมูลข้างต้น ผมก็บื้อไปพักใหญ่
สาบานว่าตอนนั้นจำได้เรื่องเดียวจริงๆ ที่ลูกค้ารุ่นพี่เคยสอนไว้
พริกจะไม่โต มีเหตุผลเดียว ก็คือระบบราก
ผมกับรุ่นน้องเดินดุ่มลงแปลง คิดในใจถ้าพลาดก็จะคุยเรื่องราคากับการเมือง
(อ่ะ ย้อเย่น เรื่องหลังนี้เป็นเรื่องที่ผมไม่ชอบเอาเสียเลย)
บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ลูกมาดี อย่าให้ลูกมาจบชีวิตที่นี่เลย ... อ่ะ ย้อเย่นอิกแย้ว
ขออนุญาตเจ้าของแปลงถอนต้นพริกสัก 1 ต้น พี่แกยิ้มสุดหวาน พยักหน้าเบาๆ
หันไปสบตากับรุ่นน้อง น้องมันพยักหน้าให้ 2 ที อะไรวะ สัญญานให้วิ่งเหรอ
ผมจะหันหลังรอโกยแล้ว น้องมันกลับบอก ... เอาวะ แล้วกระชากสุดแรงเกิด
น้องผมมันเซไปสองก้าว เฮ่ย นี่มันท่าเตรียมกระโดดไกลนี่หว่า วิ่งจริงเหรอ เอาดิ
น้องผมกลับไม่วิ่งแต่ยิ้มเผล่ยืนชูต้นพริกกับผลงานที่เป็นรูเล็กๆ บนผืนพลาสติก
ผมยืนนิ่งหลับตาปี๋ แล้วค่อยๆ หรี่ตามองต้นพริกอย่างตั้งใจที่สุดในชีวิต
บร๊ะเจ้า ... !!! ส่วนบนหน่ะเหมือนที่เห็นบนแปลงนั่นแหละ
แต่ส่วนรากนี่สิ ขดเป็นจอกเหล้าขาวเลย แหม๋ เปรียบซะเปรี้ยวปากเบยนะ
ใช่ครับ !!! รากพริกขด ขดเป็นรูปเดียวกับหลุมถาดเพาะกล้านั่นเลย
ผมหันไปมองท้ายแปลงส่วนที่ไม่มีใครยืนอยู่เลย เปล่าครับ ผมไม่ได้มองหาทางหนี
ผมหันไปแอบยิ้มให้กับตัวเองเบาๆ แล้วหันขวับมาจ้องตาหัวหน้ากลุ่มเกษตรกร
ผมว่าพี่เขาน่าจะรู้ตัว แล้วพูดเสียงอ่อยๆ น้ำมันท่วม ย้ายกล้าลงแปลงไม่ได้หน่ะ (T_T)
แหม๋ ไม่บอกซะตั้งแต่ตอนกลับบ้านเลยหล่ะจ๊ะพี่จ๋า
ปรากฎว่าทั้งหมู่บ้านนับร้อยๆ ไร่ เจอปัญหาเดียวกันทั้งหมดครับ
เพราะให้หัวหน้ากลุ่มเพาะต้นกล้าให้ทั้งหมู่บ้าน หัวหน้ากลุ่มก็รู้นะว่าจะเจอปัญหานี้
แต่ครั้นจะเทถาดทิ้ง แหม๋ ลงไปก็หลายหมื่นอยู่นะ ทั้งวัสดุเพาะ ทั้งเมล็ดพันธุ์
กะว่าจะให้นักเกษตรเข้ามาช่วยขายปุ๋ย ขายอาหารเสริมเพิ่มหล่ะสิ ... ชิห์
ท่านคิดว่าไงครับ งานนี้คงต้องถอนทิ้งหล่ะวา
เปล่าครับ ... ผมปรึกษารุ่นน้อง แล้วตัดสินใจร่วมกันว่า ...
ให้เกษตรกรทุกคนฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ ธาตุอาหารพืช ฮอร์โมน อาหารเสริม
แต่จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อขายของครับ สาบานได้ เจอแบบนี้ผมขายของไม่ลงจริงๆ
ผมกับรุ่นน้องเพียงต้องการให้พวกเขาได้เก็บผลผลิตให้ได้มากที่สุดเพื่อเอาทุนคืน
จากนั้นก็วิ่งเข้าไปทุกแปลงเพื่อบอกประโยคเดิมซ้ำๆ เป็นสิบๆ ครั้ง
ขอให้ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความรู้ของพวกเขา ที่ผมและรุ่นน้องได้มีโอกาสเรียนรู้ด้วย
ความรู้ที่ได้มาครั้งนี้ต้องบอกว่ามาพร้อมกับคราบน้ำตาของเกษตรกรจริงๆ ครับ
ผมไม่เคยลืมเลยว่าชีวิตของผมผ่านมาจนถึงวันนี้ได้อย่างไร
ขอขอบคุณเกษตรกรทุกคน ที่ทำให้ผมยังอยากทำงานนี้อยู่
ทั้งๆ ที่มันไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลยกับอาชีพนักเกษตร
หาเลี้ยงชีพจากการขายเมล็ดพันธุ์ ธาตุอาหารพืช ปุ๋ยเคมี/ อินทรีย์ เคมีเกษตร
จนถึงวันนี้ที่แจกไปก็น่าจะเยอะกว่าขาย บริษัทที่ให้ผมเอามาขายคงระอาเต็มที
ถ้าปุ๋ยกับเมล็ดพันธุ์มันกินได้ ผมคงเอามาลวกใส่โปรตีนเกษตรกินกับมาม่าให้ชื่นใจ
ลองกันสักชามไม๊ครับ น้ำเดือดพอดี ... !!!
ทั้งตรวจโรค แมลง ตรวจสภาพสิ่งผิดปกติของพืชปลูกในแปลงเกษตรกร
เกษตรกรส่วนใหญ่ก็บอกข้อมูลไม่หมด นึกจะลองภูมินักเกษตร
ก็บอกมาครึ่งๆ กลางๆ ปล่อยให้นักเกษตรวิเคราะห์ท่ามกลางความมืดมิด
ความรู้ที่ได้จากในห้องเรียนเอามาใช้จริงๆ ไม่ถึง 10% ...
... ยืนยันอีกครั้งว่าแค่ 10% !!!
ต้องวาดภาพในอากาศว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่เราจะมาถึงแปลง
นอกจากเดินสำรวจ ก็ต้องใช้วิธีสัมภาษณ์จากเกษตรกรทุกมุมที่เราพอจะนึกออก
ปัญหาจริงๆ ก็แทบจะค้นไม่เจอจากในตำรา
ยอมรับโดยดุษฎีว่าอาจารย์ที่แท้จริงของเราคือเกษตรกร
อีกทั้งสภาพแวดล้อมในแปลงปลูก บ้านเราก็มีความหลากหลายเสียเหลือเกิน
แต่สิ่งที่ครูบาอาจารย์สอนเรามาในห้องเรียนคือการช่วยเหลือเกษตรกรด้วยหัวใจ
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยี social media มันก้าวหน้า
นั่งดูภาพแล้ววิเคราะห์ปัญหาได้หมดจดก็นับว่าเป็นเซียน
วิเคราะห์ผิดพลาดแล้วโดนโห่หน่ะเรื่องเล็ก
นักเกษตรตัวจริงโดนกันมาสารพัดแล้ว ผมเองก็เคยยืนต่อหน้าปืนลูกซองมาแล้ว
แต่สิ่งที่เราได้รับมันยิ่งใหญ่กว่านั้น ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาให้เกษตรกรได้
แต่เราสามารถทำให้เกษตรกรยอมรับในความพยายามที่จะช่วยเขา
จากในภาพตัวอย่าง ถ้ายืนมองแค่หัวแปลง ก็คงจะบอกได้ว่าพริกแปลงนี้ก็ดูแลได้ดี
พริกอายุไม่เกิน 2 เดือน อีกหน่อยเกษตรกรก็คงได้ตังค์ ดีใจกับเขาด้วยจริงๆ
แต่จริงๆ นี่คือพริกอายุ 6 เดือน ห๋า ... !!! ทำไมมันต้นเล็กแค่นี้ แล้วทำไมยังไม่ติดลูก
ถ้าตกใจ กังวลใจ กลัวตอบพลาด ไม่ยากครับ ...
เปลี่ยนไปคุยเรื่องราคาผลผลิต ดินฟ้าอากาศ ลูกเต้าเข้าโรงเรียนหรือยัง
แล้วอาจจะพลิกไปคุยการเมือง จุดประกายไฟรักชาติให้เกษตรกรลืมเรื่องในแปลง
แล้วค่อยๆ ลากเกษตรกรออกมาจากแปลง เดินไปส่งเราที่รถ ไหว้งามๆ สตาร์ทรถ
หยอดอีกนิดหน่อย ... แล้วผมจะมาเยี่ยมอีกน๊าาาาาา ... แล้วก็หายหัวไปตลอดกาล
ถ้าตั้งใจจะมาขายของ ก็เก็บข้อมูลปัญหา สอบถามให้เกษตรกรรู้สึกว่าเราสนใจ
แล้วก็นำเสนอทางแก้ปัญหาด้วยการซื้อผลิตภัณฑ์ชั้นเทพที่บังเอิญติดหลังรถมาด้วย
(ไม่ได้ตั้งใจเอามาขายนะเออ แค่แวะมาเยี่ยม แต่เห็นมีปัญหา ก็เลยอยากช่วย)
บอกตรงๆ ตอนลงแปลงนี้และรับทราบข้อมูลข้างต้น ผมก็บื้อไปพักใหญ่
สาบานว่าตอนนั้นจำได้เรื่องเดียวจริงๆ ที่ลูกค้ารุ่นพี่เคยสอนไว้
พริกจะไม่โต มีเหตุผลเดียว ก็คือระบบราก
ผมกับรุ่นน้องเดินดุ่มลงแปลง คิดในใจถ้าพลาดก็จะคุยเรื่องราคากับการเมือง
(อ่ะ ย้อเย่น เรื่องหลังนี้เป็นเรื่องที่ผมไม่ชอบเอาเสียเลย)
บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง ลูกมาดี อย่าให้ลูกมาจบชีวิตที่นี่เลย ... อ่ะ ย้อเย่นอิกแย้ว
ขออนุญาตเจ้าของแปลงถอนต้นพริกสัก 1 ต้น พี่แกยิ้มสุดหวาน พยักหน้าเบาๆ
หันไปสบตากับรุ่นน้อง น้องมันพยักหน้าให้ 2 ที อะไรวะ สัญญานให้วิ่งเหรอ
ผมจะหันหลังรอโกยแล้ว น้องมันกลับบอก ... เอาวะ แล้วกระชากสุดแรงเกิด
น้องผมมันเซไปสองก้าว เฮ่ย นี่มันท่าเตรียมกระโดดไกลนี่หว่า วิ่งจริงเหรอ เอาดิ
น้องผมกลับไม่วิ่งแต่ยิ้มเผล่ยืนชูต้นพริกกับผลงานที่เป็นรูเล็กๆ บนผืนพลาสติก
ผมยืนนิ่งหลับตาปี๋ แล้วค่อยๆ หรี่ตามองต้นพริกอย่างตั้งใจที่สุดในชีวิต
บร๊ะเจ้า ... !!! ส่วนบนหน่ะเหมือนที่เห็นบนแปลงนั่นแหละ
แต่ส่วนรากนี่สิ ขดเป็นจอกเหล้าขาวเลย แหม๋ เปรียบซะเปรี้ยวปากเบยนะ
ใช่ครับ !!! รากพริกขด ขดเป็นรูปเดียวกับหลุมถาดเพาะกล้านั่นเลย
ผมหันไปมองท้ายแปลงส่วนที่ไม่มีใครยืนอยู่เลย เปล่าครับ ผมไม่ได้มองหาทางหนี
ผมหันไปแอบยิ้มให้กับตัวเองเบาๆ แล้วหันขวับมาจ้องตาหัวหน้ากลุ่มเกษตรกร
ผมว่าพี่เขาน่าจะรู้ตัว แล้วพูดเสียงอ่อยๆ น้ำมันท่วม ย้ายกล้าลงแปลงไม่ได้หน่ะ (T_T)
แหม๋ ไม่บอกซะตั้งแต่ตอนกลับบ้านเลยหล่ะจ๊ะพี่จ๋า
ปรากฎว่าทั้งหมู่บ้านนับร้อยๆ ไร่ เจอปัญหาเดียวกันทั้งหมดครับ
เพราะให้หัวหน้ากลุ่มเพาะต้นกล้าให้ทั้งหมู่บ้าน หัวหน้ากลุ่มก็รู้นะว่าจะเจอปัญหานี้
แต่ครั้นจะเทถาดทิ้ง แหม๋ ลงไปก็หลายหมื่นอยู่นะ ทั้งวัสดุเพาะ ทั้งเมล็ดพันธุ์
กะว่าจะให้นักเกษตรเข้ามาช่วยขายปุ๋ย ขายอาหารเสริมเพิ่มหล่ะสิ ... ชิห์
ท่านคิดว่าไงครับ งานนี้คงต้องถอนทิ้งหล่ะวา
เปล่าครับ ... ผมปรึกษารุ่นน้อง แล้วตัดสินใจร่วมกันว่า ...
ให้เกษตรกรทุกคนฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ ธาตุอาหารพืช ฮอร์โมน อาหารเสริม
แต่จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อขายของครับ สาบานได้ เจอแบบนี้ผมขายของไม่ลงจริงๆ
ผมกับรุ่นน้องเพียงต้องการให้พวกเขาได้เก็บผลผลิตให้ได้มากที่สุดเพื่อเอาทุนคืน
จากนั้นก็วิ่งเข้าไปทุกแปลงเพื่อบอกประโยคเดิมซ้ำๆ เป็นสิบๆ ครั้ง
ขอให้ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความรู้ของพวกเขา ที่ผมและรุ่นน้องได้มีโอกาสเรียนรู้ด้วย
ความรู้ที่ได้มาครั้งนี้ต้องบอกว่ามาพร้อมกับคราบน้ำตาของเกษตรกรจริงๆ ครับ
ผมไม่เคยลืมเลยว่าชีวิตของผมผ่านมาจนถึงวันนี้ได้อย่างไร
ขอขอบคุณเกษตรกรทุกคน ที่ทำให้ผมยังอยากทำงานนี้อยู่
ทั้งๆ ที่มันไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลยกับอาชีพนักเกษตร
หาเลี้ยงชีพจากการขายเมล็ดพันธุ์ ธาตุอาหารพืช ปุ๋ยเคมี/ อินทรีย์ เคมีเกษตร
จนถึงวันนี้ที่แจกไปก็น่าจะเยอะกว่าขาย บริษัทที่ให้ผมเอามาขายคงระอาเต็มที
ถ้าปุ๋ยกับเมล็ดพันธุ์มันกินได้ ผมคงเอามาลวกใส่โปรตีนเกษตรกินกับมาม่าให้ชื่นใจ
ลองกันสักชามไม๊ครับ น้ำเดือดพอดี ... !!!
Comments