Posts

Showing posts from July, 2018

ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ภาคปฏิบัติ

อุปสงค์ Demand, อุปทาน Supply ใครที่ไม่ได้ pass ชั้น ม. 5 มา น่าจะพอจำใจความได้ อุปสงค์: ความต้องการซื้อ อุปทาน: ความต้องการขาย ปัจจัยมี 2 มิติ คือ ปริมาณและราคา อุปสงค์จะปฏิภาคผกผัน อุปทานจะแปรผันตรง เกิดเป็นกราฟบันลือโลก ที่ใช้อธิบายทฤษฎีทางการตลาดได้มากมาย ข้ามเรื่องความยืดหยุ่น (Elasticity) ไปก่อนนะ คนอธิบายก็ผจญภัยใต้ Mean มาเหมือนกัน อธิบายกราฟอย่างย่อคือ สินค้าหายาก (Premium) ก็ราคาแพง สินค้าทั่วไป (Commodity) ก็ราคาถูก ในการทำธุรกิจ เราจึงต้องกำหนด STP (Segmentation, Targeting, Positioning) อีกทั้ง Differentiation ให้กับกิจการ และสินค้าของเรา เพื่อทำให้สินค้าของเราเป็นของพิเศษ เฉพาะตัวและเป็นที่ต้องการของตลาด เพราะฉะนั้นจึงต้อง จับกลุ่มเป้าหมายให้ถูกต้อง วางตำแหน่งทางการตลาดให้ชัดเจน ค้นหาความต้องการที่แท้จริงของตลาด แตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อขายได้ในราคาที่ดี เพิ่มยอดขายโดยการเพิ่มปริมาณการใช้งาน และขยายช่องทางการจำหน่ายต่อไปในอนาคต 'เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง' แนวคิดนี้ยังคงใช้การได้เสมอ ไม่ว่าสถานการณ์ตลาดจะเป็นเช่นไรก็ตาม หน้าแรก             สา

ลองถูกลองผิด ชีวิตเรียนรู้

เคยมีใครบอกไม๊ครับว่าให้ค้นหาสิ่งที่รักที่ชอบแล้วลงมือทำอย่างมีความสุข ชีวิตนี้จะได้ไม่ต้องทำงานอีกต่อไป ทุกวันจะเป็นเหมือนกับวันหยุด เพราะเรากำลังทำในสิ่งที่รัก จึงไม่รู้สึกเหนื่อย กดดัน หรือเครียด ก็เลยรู้สึกเหมือนกับไม่ได้ทำงาน ทำไปได้เรื่อยๆ โดยไม่พักก็ได้ แล้วจะมีซักกี่คนหล่ะครับที่โชคดีขนาดนั้น ค้นเจอสิ่งที่ตนเองรักตั้งแต่เนิ่นๆ คนธรรมดาอย่างเราๆ ที่เรียนจบมาจากห้องเล็คเชอร์ขนาด 500 ที่นั่ง นั่นหมายความว่า เราถูกสอนมาเหมือนๆ กันให้นึกถึงความมั่นคง การหางานทำ เราถูกสอนให้นึกถึงปากท้องก่อนจะคิดถึงหัวใจ ก็เห็นใจอาจารย์และสถาบันการศึกษาที่เราเรียนมา ท่านก็ไม่อยากเสี่ยงเอาชีวิตของพวกเราเป็นเดิมพัน ถ้าลูกศิษย์ทุกคนค้นเจอก็ดีไป แต่ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งค้นไม่เจอ แล้วเป็นบ้าไปเลย อาจารย์ท่านคงเสียใจเป็นที่สุด เพลย์เซฟแบบนี้แหละ ยังไงพวกเธอก็รอดหมดทุกคน ไม่ต้องอดตายเป็นใช้ได้ หลังจากนั้นจะเอาความรู้ที่ได้ไปต่อยอดยังไง ก็แล้วแต่เธอ ถ้าเราค้นไม่เจอจะทำยังไง ????? ก็หาไปเรื่อยๆ สิ ... ตอบแบบกำปั้นทุบดิน แต่ก็ดีกว่านั่งมโนอยู่เฉยๆ ว่าจะเป็นนั่นเป็นนี่ ทำนั่นทำนี่ ถ้ามีโอกาสไ

รู้ไหมใครสำคัญ

พึงระลึกไว้เสมอว่า เมื่อเราเข้ามาเป็นลูกจ้าง ชีวิตของเรา จะต้องอยู่ในมือของนายจ้างไปจนตลอดชีวิต ตั้งแต่เริ่มเข้าทำงาน ออกจากงานเพื่อเปลี่ยนงานใหม่ หรือแม้แต่ออกมาทำธุรกิจส่วนตัวที่เกี่ยวข้อง ใกล้เคียงกับธุรกิจเดิม มันจะเป็นฝันร้ายสำหรับพนักงานที่ประสบปัญหาในการทำงาน และออกจากงานมาด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีนัก ทั้งของนายจ้างและตัวเราเอง ไม่ว่าเราจะรู้สึกว่าเราทำดี แต่หากนายจ้างไม่เห็นด้วย ก็เปล่าประโยชน์ เพราะการสมัครงานใหม่ อย่างไรเสียก็ต้องอาศัยการรับรองของนายจ้างเก่าอยู่ดี ไม่ว่าลูกจ้างจะรู้หรือไม่ก็ตาม แต่ว่าที่นายจ้างใหม่ของเราก็มักจะสอบถามความประพฤติของเราจากนายจ้างเก่าอยู่เสมอ เพราะความซื่อสัตย์ ความประพฤติที่ดีเป็นสิ่งที่องค์กรส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ มากกว่าความสามารถในการทำงานเสียอีก เพราะฉะนั้น หากเราคิดว่าการมีตำแหน่งงานและคุณสมบัติที่ดีในประวัติการทำงาน อีกทั้งประสบการณ์ ความสามารถที่สูงส่งจะช่วยให้เราได้งานที่ต้องการทุกครั้งก็ขอให้คิดใหม่ การเป็นพนักงานที่ดี ปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมขององค์กร ยอมรับและปฏิบัติตามนโยบายของนายจ้างโดยไม่มีเงื่อนไข ทุ่มเทกำลัง ความสา

ราคาไม่ดี พาราฯ ขายดี

ราคาผลผลิตสินค้าเกษตร ต้นเหตุอาการปวดหัวเรื้อรังของเกษตรกรไทย พูดถึงราคาผลผลิตสินค้าเกษตรในบ้านเรา ก็อยากจะเอาพาราฯ กรอกปากสักกำมือ เหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง วนอยู่อย่างนั้นตลอดปีตลอดชาติ ... น่าเวียนหัว !!! ช่วงไหนสภาพอากาศดี ปลูกง่าย โรคแมลงน้อย   ผลผลิตติดดก     สวย ราคากลับไม่ดี เหลียวไปทางไหน ผลผลิตสวยๆ กองเต็มตลาดไปหมด ช่วงไหนอากาศแย่ แปรปรวน โรคแมลงระบาดรุนแรง ผลผลิตติดน้อย อย่าว่าแต่ผลผลิตออกมาสวยเลย ขอให้ติดอยู่บนต้น ไม่ร่วงก็ดีใจแล้ว แบบนี้สิได้ขาย ขนออกมาจากแปลงให้ได้ เจ้เหมาทั้งหมด ...     จ่ายสด ไม่อยากให้โลกสวย ผลผลิตคุณภาพดีไม่ใช่ว่าจะได้ราคาดีเสมอไป ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ... ?????????????????????????????? หม่ะ ... แยกวิเคราะห์กันออกมาเป็นส่วนๆ   ไม่ต้องเข้าใครออกใคร เกษตรบ้านเราเป็นเกษตรฤดูกาล มีข้าวเป็นพืชหลัก ว่างจากทำนา ค่อยหาพืชอื่นมาลง พืชที่ลง     ก็ปลูกตามสมาชิกในชุมชน ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า แต่เขาปลูก ก็ปลูกตาม พอปลูกกันเยอะ ผลผลิตก็เลยออกเยอะ ราคาก็เลยตก ตามหลักเศรษฐศาสตร์เป๊ะ อุปทานเพิ่ม อุปสงค์ลด ปริมาณผลผลิตเกินความต้องการของผู้บริโภค

รักงาน รักชีวิต

" ถ้าเรารักงานที่ทำ เราจะไม่รู้สึกว่าต้องทำงานอีกเลยตลอดชีวิต" คำกล่าวข้างต้นเป็นได้ทั้งการแสดงความยินดีสำหรับผู้ที่ค้นเจอแล้วว่าตัวเองชอบอะไร และคำปลอบใจให้กับผู้ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร กับทั้งข้อแนะนำให้ค้นหาเสน่ห์ ความน่าสนใจ ความท้าทาย ผลสัมฤทธิ์ของงานที่ทำในปัจจุบัน หากเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมของทุกคนมีเหมือนๆ กันคือ "การประสบความสำเร็จ" ไม่ว่าจะเดินบนถนนที่โรยด้วยกลีบกุหลาบหรือกลีบดอกไม้ที่เราชอบ หรือบนถนนลูกรังฝุ่นคลุ้งกระจาย เราก็สามารถไปถึงเป้าหมายได้เหมือนๆ กัน เพียงปรับทัศนคติในการทำงาน ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา 3 วัน , 3 เดือน , 1 ปี หรือ 5 ปี แต่ดูๆ ก็น่าจะใช้เวลาน้อยกว่าการที่เราจะต้องทนใช้ชีวิตกับสิ่งที่เราไม่ชอบไปทั้งชีวิต " ทัศนคติ" สำคัญอย่างไร ? น้องรักของผมคนหนึ่งค้นหาตัวเองเจอว่ารักการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ แต่เขาเลือกเอางานที่เขารักไว้เป็นงานอดิเรก ในขณะที่ทำงานประจำไปด้วย ซึ่งเป็นงานที่เขารักรองลงมา เขาสามารถสร้างรายได้เสริมจากงานอดิเรกในแต่ละปีมากพอสมควร ถึงแม้จะยังไม่มากเท่ากับรายได้จากงานประจำ แต่ที่แน่ๆ กำไรชีวิตที่มีคุณค่ามา