Posts

Showing posts from August, 2018

ประโยชน์ของพีทมอสและการนำพีทมอสมาใช้งาน

พีทมอสที่นิยมนำมาใช้เพาะต้นกล้า แบ่งโดยละเอียดตามอายุจะแบ่งได้ 5 ชนิดด้วยกัน เรียงตามลำดับชั้นทับถมจากชั้นบนลงชั้นล่าง 1) White peat พีทสีขาว 2) Light peat พีทสีอ่อน 3) Brown peat พีทสีน้ำตาล 4) Dark peat พีทสีเข้ม 5) Black peat พีทสีดำ ความแตกต่างของคุณสมบัติคือความสามารถในการดูดซับความชื้น พีทสีดำจะมีความสามารถในการดูดซับความชื้นสูงที่สุด มีคุณสมบัติเป็น Humus สูงที่สุด แต่อายุยังไม่มากพอที่จะเป็นสารอินทรีย์ จึงไม่เหมาะที่จะนำมาแปรรูปเป็นปุ๋ยอินทรีย์เพื่อใช้ในการเกษตร พีทสีดำมีราคาสูงที่สุด ใช้ต้นทุนในการขุดเจาะสูงที่สุด เนื่องจากถูกทับถมอยู่ชั้นล่างสุด ต่ำกว่าชั้นผิวดินหลายร้อยเมตร บริษัทผู้ผลิตพีทมอสในยุโรปจึงไม่นิยมนำมาใช้ในการเกษตร แต่นิยมนำมาทำเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงานให้ความร้อน สำหรับในบ้านเรือนและอุตสาหกรรมทั่วไป พีทมอสเป็นพืชน้ำที่แห้งทับถมกันเป็นชั้นภายใต้หิมะนับร้อยนับพันปี จึงนำมาเผาเป็นเชื้อเพลิงได้เหมือนกับเศษซากพืชอื่นๆ ด้วยคุณสมบัติของพีทมอสที่โปร่ง ร่วนซุย สะอาด ปราศจากโรค แมลง มีอนุภาคขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ระบายน้ำ ระบายอากาศได้ดีกว่าอิ

ธาตุอาหารพืชกับการนำมาใช้งานในรูปแบบต่างๆ

การทำการเกษตรปลอดสารพิษ หรือการทำการเกษตรปลอดภัย สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือการจัดการ ธาตุอาหารพืชที่ใส่ให้กับพืชปลูก เพื่อสร้างการเจริญเติบโต สร้างความแข็งแรง แข็งแกร่ง สร้างภูมิต้านทานการเกิดโรคพืช เพิ่มคุณภาพและปริมาณให้กับผลผลิต ธาตุอาหารพืชที่ใส่ ซึ่งเป็นสารเคมีในสภาพธรรมชาติ จะอยู่ในรูปของปุ๋ยชนิดต่างๆ ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ อรรถประโยชน์ของปุ๋ยแต่ละชนิด ก็แตกต่างกันไปตามการนำไปใช้ ปุ๋ยเคมี: เพิ่มปริมาณธาตุอาหารพืช ให้เพียงพอต่อความต้องการของพืช ในช่วงเวลาที่จำเป็น ปุ๋ยอินทรีย์: รักษาระดับธาตุอาหารพืช ปรับสภาพความเหมาะสมของดิน ต่อการปลดปล่อยธาตุอาหารพืช ปุ๋ยชีวภาพ: เพิ่มประสิทธิภาพการละลาย และความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารพืช การเลือกใช้ชนิดของปุ๋ยที่ใส่ให้กับพืช ก็ขึ้นอยู่วัตถุประสงค์และความต้องการ ต้นทุนของการหามาใช้ของผู้ปลูกเป็นหลัก การใช้แบบผสมผสาน คือแนวทางที่เหมาะสม จะ 1 + 1 หรือ 1 + 2 ก็ตามแต่ประสงค์ ดังเหตุผลข้างต้นที่กล่าว ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัตถุดิบ ทั้งหมดทั้งปวงก็เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร หน้าแรก

พริกพันธุ์ดีเป็นที่ต้องการของตลาดสูง

ปี 2553 ประเทศไทยมีพื้นที่ผลิตพริกทั้งประเทศ 474,717 ไร่ ได้ผลผลิตจากแปลงปลูกรวมกันทั้งหมด     609,195 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่าการค้า 3,324.67 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าการส่งออกถึง 2,597.95 ล้านบาท ที่เกิดจากซอสพริก พริกแห้ง พริกป่น พริกสด พริกแช่แข็ง ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีจากการขยายตลาดอาหารไทยสู่ตลาดโลก คู่ค้าที่สำคัญของไทยคือประเทศมาเลเซีย ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ พื้นที่ผลิตที่สำคัญ คือ ภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน ลำพูน ภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร ตาก ภาคกลาง ได้แก่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร อุทัยธานี ในขณะที่ยอดนำเข้าพริกแห้ง มีมูลค่าสูงถึง 1,718.74 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณ 68,944 ตัน จากความไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ ทั้งหมดนี้คือโอกาสของเกษตรกรไทย เริ่มต้นจากแปลงผลิตขนาดเล็ก ในรูปแบบ intensive farming ใช้แรงงานในครอบครัว ควบคุมการใช้สาร ลดต้นทุนการผลิต จำหน่ายผลผลิตในท้องถิ่นในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ จดบันทึกข้อมูลการผลิต ต้นทุน วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ราคาผลผลิต เพื่อการวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพในฤดูถัดไป สร้างมาต

สำคัญหรือไม่ ด่วนใช่ไหม

ในแต่ละวันนี่งานเยอะกันไหมครับ เยอะขึ้นทุกวันใช่ไหม ปีนี้ก็ดูเหมือนจะเยอะกว่าปีก่อน พออายุ (งาน) เยอะขึ้น ความรับผิดชอบก็ดูเหมือนจะมากขึ้น ถ้าเอาตามที่เคยถูกสอนกันมาแต่โบร่ำโบราณ ก็คือต้องขยันให้มากขึ้น ทุ่มเทกว่าที่เคย พักผ่อนให้น้อยลง นั่นหมายถึงเวลาส่วนตัวของเราก็จะน้อยลง พอถึงสุดสัปดาห์ก็นอนหมดสภาพอยู่บ้าน แล้วตื่นมาแบบเซ็งๆ ในเช้าวันจันทร์ แล้วจะมีความสุขตอนไหน   ช่วงหยุดยาวพร้อมกับคนทำงานทั้งประเทศงั้นเหรอ นอนดูทีวีอยู่บ้านคงเหนื่อยน้อยกว่านะ ดีกว่าไปแย่งกันกินแย่งกันเที่ยว ... ถ้าการมีความสุขต้องรอวันหยุดยาวนานขนาดนั้น ทำไมไม่หาความสุข สนุกสนานมันทุกวันไปเลยล่ะ หาจากที่ไหนกัน ... ก็หามันจากการทำงานนี่แหละ แล้วมันมีความสุขได้ยังไง ทำงานนะ ไม่ใช่ทำสปา ไม่ต้องถึงขั้นมีความสุขดั่งทำสปาหรอก คนทั่วไปจะรู้สึกผ่อนคลายกันตอนไหน ? แต่ละคนน่าจะไม่เหมือนกัน แต่โดยรวม น่าจะเป็นตอนที่เรารู้สึกว่าเราควบคุมได้ เราจะรู้สึกสบายสบายเมื่อรู้สึกว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม รู้ว่าจะทำอะไรเมื่อไร   อย่างไร   สิ่งไหนจะเกิดขึ้นเมื่อไร   อย่างไร แล้วความรู้สึกเหล่านี้จะเกิดขึ้น