Goods Selling Strategy
จะว่าไปก็เห็นใจรัฐบาลท่านนะ
จะกี่รัฐบาลที่ผ่านมาก็แก้ไขอะไรไม่ได้มาก
กับปัญหาความยากจน
ซึ่งเกิดกับคนหมู่มากของประเทศ
หลายอย่างก็ไม่ได้เป็นดังตั้งใจ
ส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนใหญ่
คือความร่วมมือของคนในชาติ
อาจจะเพราะคนไทยไม่ได้ยากจนจริงๆ
ไม่มีเงินหน่ะ ... ใช่ !
แต่ไม่มี ‘กิน’ หน่ะคงไม่จริง
ดูได้จากปัจจัยหลายๆ อย่าง
ที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจ
ที่เห็นชัดๆ ได้แก่
ราคาผลผลิตเกษตรที่ตกต่ำ
กำลังซื้อของคนรายได้น้อยหดหาย
ก็ในเมื่อเกษตรกรซึ่งเรียกกันว่า
‘กลุ่มคนรายได้น้อย’
ผลิตผลผลิตออกมามหาศาล
ส่วนหนึ่งถูกนำไปใช้เพื่อการบริโภค
ในครัวเรือน เหลือจากการบริโภค
จึงนำออกมาจำหน่าย
ครอบครัวเกษตรกรไทยเลยยังชิลอยู่ได้
ไม่ออกมาเรียกร้องอะไรมากนัก
หากต้องการช่วยเหลือเกษตรกรจริงจรี๊ง
ให้มีรายได้ต่อเนื่อง ไม่ขัดสน
เพื่อสร้างกำลังซื้อ ก็เห็นจะมีทางเดียว
คือช่วยหาตลาดให้กับผลผลิตที่ออกมา
ถูกหรือแพง เกษตรกรไม่เคยเรียกร้อง
ขอให้ช่วยขาย ได้เงินนิดหน่อยก็พอ
เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของ ‘ทุน’
ซื้อมา ขายไป กำไรนิดหน่อย
พอได้เป็นทุนหมุนเวียนผลิตรอบต่อไป
ความพยายามของรัฐ
ในการถ่ายทอดเทคโนโลยี
ลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร
ดูจะไม่ใช่สิ่งจำเป็น
เพราะเกษตรกรบริหารจัดการกันเองได้
อย่าได้ดูถูกมันสมองของเกษตรกรเชียว
หาที่ขายให้ได้ก็พอ ถูกๆ ก็ขายไปเถอะ
เอาไปแจกในพื้นที่ยากจนของโลกก็ได้
สินค้าจะได้หมุนเวียนในรอบเร็วๆ
ประเทศไทยได้หน้าได้ตาอีกต่างหาก
แจกข้าว ขายผลไม้
แจกผลไม้ ขายน้ำตาล
แจกน้ำตาล ขายน้ำมัน
แจกน้ำมัน ขายธุรกิจบริการ ฯลฯ
โอ้ย เยอะแยะตาแป๊ะไก่ ที่ประเทศไทย
มีเหลือจากการบริโภคภายในประเทศ
นี่มันโอกาสทางการตลาดเลยนะ
อย่าไปคิดว่ามันเป็นวิกฤติ
ต้นทุนผลผลิตไม่สูง
ซื้อจากเกษตรกรมาแจกก็ใช้เงินไม่เยอะ
ขายก็ง่าย ของดีราคาถูก ใครก็อยากได้
แจกบ่อยๆ เกิดความต้องการขึ้นในตลาด
เดี๋ยวเขาก็ขอซื้อ
ซื้อบ่อยๆ ความต้องการมีมากขึ้น
เดี๋ยวราคาก็ขยับขึ้นเองแหละ
จะเล่น Promotion อะไร ก็ทำได้ดังใจ
10 แถม 1
20 แถม 3
100 แถม 100
จะแถมเท่าไรก็แถมไปเถอะ
ดีกว่ากองไว้ให้มอดเจาะ !
ของดีมีไว้แจก
แจกแล้วก็ขาย
ขายถูกๆ ให้คนใช้เยอะๆ
คนต้องการเยอะก็ขายแพง
แพงแล้วก็แถม
แถมแล้ว แถมอีก
แถมจนต้องร้องขอชีวิต
ขายไม่ได้ให้มันรู้ไปสิ (วะ)
จะกี่รัฐบาลที่ผ่านมาก็แก้ไขอะไรไม่ได้มาก
กับปัญหาความยากจน
ซึ่งเกิดกับคนหมู่มากของประเทศ
หลายอย่างก็ไม่ได้เป็นดังตั้งใจ
ส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนใหญ่
คือความร่วมมือของคนในชาติ
อาจจะเพราะคนไทยไม่ได้ยากจนจริงๆ
ไม่มีเงินหน่ะ ... ใช่ !
แต่ไม่มี ‘กิน’ หน่ะคงไม่จริง
ดูได้จากปัจจัยหลายๆ อย่าง
ที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจ
ที่เห็นชัดๆ ได้แก่
ราคาผลผลิตเกษตรที่ตกต่ำ
กำลังซื้อของคนรายได้น้อยหดหาย
ก็ในเมื่อเกษตรกรซึ่งเรียกกันว่า
‘กลุ่มคนรายได้น้อย’
ผลิตผลผลิตออกมามหาศาล
ส่วนหนึ่งถูกนำไปใช้เพื่อการบริโภค
ในครัวเรือน เหลือจากการบริโภค
จึงนำออกมาจำหน่าย
ครอบครัวเกษตรกรไทยเลยยังชิลอยู่ได้
ไม่ออกมาเรียกร้องอะไรมากนัก
หากต้องการช่วยเหลือเกษตรกรจริงจรี๊ง
ให้มีรายได้ต่อเนื่อง ไม่ขัดสน
เพื่อสร้างกำลังซื้อ ก็เห็นจะมีทางเดียว
คือช่วยหาตลาดให้กับผลผลิตที่ออกมา
ถูกหรือแพง เกษตรกรไม่เคยเรียกร้อง
ขอให้ช่วยขาย ได้เงินนิดหน่อยก็พอ
เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของ ‘ทุน’
ซื้อมา ขายไป กำไรนิดหน่อย
พอได้เป็นทุนหมุนเวียนผลิตรอบต่อไป
ความพยายามของรัฐ
ในการถ่ายทอดเทคโนโลยี
ลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร
ดูจะไม่ใช่สิ่งจำเป็น
เพราะเกษตรกรบริหารจัดการกันเองได้
อย่าได้ดูถูกมันสมองของเกษตรกรเชียว
หาที่ขายให้ได้ก็พอ ถูกๆ ก็ขายไปเถอะ
เอาไปแจกในพื้นที่ยากจนของโลกก็ได้
สินค้าจะได้หมุนเวียนในรอบเร็วๆ
ประเทศไทยได้หน้าได้ตาอีกต่างหาก
แจกข้าว ขายผลไม้
แจกผลไม้ ขายน้ำตาล
แจกน้ำตาล ขายน้ำมัน
แจกน้ำมัน ขายธุรกิจบริการ ฯลฯ
โอ้ย เยอะแยะตาแป๊ะไก่ ที่ประเทศไทย
มีเหลือจากการบริโภคภายในประเทศ
นี่มันโอกาสทางการตลาดเลยนะ
อย่าไปคิดว่ามันเป็นวิกฤติ
ต้นทุนผลผลิตไม่สูง
ซื้อจากเกษตรกรมาแจกก็ใช้เงินไม่เยอะ
ขายก็ง่าย ของดีราคาถูก ใครก็อยากได้
แจกบ่อยๆ เกิดความต้องการขึ้นในตลาด
เดี๋ยวเขาก็ขอซื้อ
ซื้อบ่อยๆ ความต้องการมีมากขึ้น
เดี๋ยวราคาก็ขยับขึ้นเองแหละ
จะเล่น Promotion อะไร ก็ทำได้ดังใจ
10 แถม 1
20 แถม 3
100 แถม 100
จะแถมเท่าไรก็แถมไปเถอะ
ดีกว่ากองไว้ให้มอดเจาะ !
ของดีมีไว้แจก
แจกแล้วก็ขาย
ขายถูกๆ ให้คนใช้เยอะๆ
คนต้องการเยอะก็ขายแพง
แพงแล้วก็แถม
แถมแล้ว แถมอีก
แถมจนต้องร้องขอชีวิต
ขายไม่ได้ให้มันรู้ไปสิ (วะ)
Comments