Posts

Showing posts from January, 2019

Lifetime Reading for Life

มาอ่านหนังสือกันเถอะ ... นะ เคยนึกสนใจหรืออยากเรียนรู้อะไรเป็นพิเศษไม๊ครับ หากรู้ว่าสามารถหาความรู้นั้นได้จากการอ่านหนังสือ แล้วท่านจะทำอย่างไร 1) ช่างมันเถอะ ไม่มีเวลาอ่านหรอก ไหนจะงานประจำ ไหนจะดูแลครอบครัว 2) หู๋ววว เล่มตั้งหลายร้อย ไม่ซื้อหรอก เอาไว้จ่ายโปรรายเดือนสมาร์ทโฟนได้ตั้งเดือน (เดือนเดียวเอง ?) 3) ถ้างั้นยืนอ่านที่ร้านขายหนังสือก็ได้ ถ้าคนขายมายืนมองหน้าค่อยมาอ่านต่อวันหลัง 4) ไปดูในเว็บไซต์ร้านขายหนังสือ ดูเนื้อหาย่อๆ เอาก็ได้ แล้วค่อยมโนเนื้อหาทั้งเล่มเอา เราอ่ะเก่งอยู่แล้ว 5) หรือถ้าตัดใจซื้อหนังสือเล่มละหลายร้อยมา ... เฮ่อ แล้วจะไปอ่านตอนไหน (วะ) ไม่มีเวลา นั่นสิ !!! จะไปอ่านตอนไหน เล่มนึงก็ใช่ว่าจะมีแค่ 4 - 5 หน้า จะไปอ่านตอนไหนกัน เฮ่ออออยาวๆ อีกครั้ง (- _-!) จะว่าไปแล้วการอ่านหนังสือก็เหมือนการปฏิบัติในขั้นตอนของการมุ่งตรงเข้าไปสู่เป้าหมายน่ะแหละ หากเป้าหมายคือการที่เราจะมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่จำเป็นต่อการทำงาน การเงิน การใช้ชีวิต โลกทุกวันนี้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ความรู้ที่เคยใช้ทำมาหากินได้ดูจะล้าหลังไปแล้ว อาชีพใหม่เกิดขึ้นมาอ

Better or Smarter is Better ?

คนเก่งกับคนดี ท่านคิดว่าในองค์กร ต้องการคนเก่งหรือคนดี ? เมื่อหลายสิบปีก่อน (นานหว่ะ) ตอนที่ผมเรียนจบเข้าทำงานใหม่ เจ้านายได้ถามผมว่า ผมอยากเป็น "คนเก่ง" หรือ "คนดี" ผมก็ได้แต่ตอบไปว่า ผมอยากเป็นคนเก่ง เพราะมีความรู้สึกว่าการเป็นคนเก่งหน่ะมันยาก ต้องเรียนรู้ ฝึกฝน ลองผิดลองถูกอีกเยอะกว่าจะเป็นคนเก่งจริงๆ ได้ แต่การเป็นคนดีไม่ได้ยากอะไร เพียงแค่ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่เบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อนก็น่าจะพอ ในวันนั้นผมจึงได้เรียนรู้ว่า "คนเก่งกับคนดี" ในชีวิตจริงนั้นแตกต่างกับ "คนเก่งกับคนดี" ในองค์กรอย่างไร จริงๆ ก็ดูจะคล้ายๆ กัน จากนิยามที่เจ้านายผมให้ไว้ คือ คนเก่งมักจะเห็นภาพความสำเร็จอยู่ในหัวแล้วก่อนที่จะลงมือทำ เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง จึงเก่งเร็ว ทำงานดี มีประสิทธิภาพ แต่ต้องทำคนเดียวนะ เพราะเก่งกว่าคนอื่นไง คนเหล่านี้จึงก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง "ผู้บริหาร" ได้อย่างสง่างาม เพราะไม่มีข้อสงสัยในเรื่องฝีมือการทำงานที่เหนือกว่าคนอื่น แต่ก็นึกถึงตัวเองก่อนนึกถึงผู้ร่วมงาน เพราะรอไม่ได้หากผู้ร่วมงานช้ากว่า คนเหล่านี้จึงเหมาะที่จะเป็น "ผู้บร

Better for Smarter

คนเก่งหรือคนดี โลกทุกวันนี้ เทิดทูนคนเก่งจนเกินงาม จนละเลยคุณธรรมที่สำคัญหลายอย่าง ความซื่อสัตย์ ความไว้วางใจ ความเสียสละ ฯลฯ คนรุ่นใหม่ก็คิดแค่เพียงว่าอยากเก่ง อยากมีความสามารถ เป็นที่รู้จักของใครๆ จนทำอะไรก็ได้เพื่อไปให้ถึงซึ่งจุดนั้น เก่งด้วย ดีด้วย ถือเป็นบุคคลในฝัน ที่ใครก็อยากร่วมงาน ร่วมอากาศหายใจ คนเก่ง คนดีมันเป็นกันอย่างไร ? เอาตัวเองรอดได้ ไม่เบียดเบียนใครก็น่าจะพอ ถ้าชอบช่วยเหลือคน โดยที่ตัวเองไม่เดือดร้อน ก็เป็นการเสริมคุณสมบัติการเป็นคนดีให้สูงขึ้น ยิ่งถ้าไม่หวังสิ่งตอบแทน ชีวิตจะยิ่งมีความสุข เพราะไม่ต้องอาศัยสิ่งใดมาต่อเติมความรู้สึก เป็นอิสระจากเงื่อนไขใดใดทั้งปวง ทำดีวันละนิด หรือจะนานๆ ทำที ก็ทำให้ชีวิตได้พานพบกับสิ่งดีๆ อันเป็นผลจากการทำดี ง่ายๆ ใกล้ตัวที่สุดคือทำดีกับตัวเอง ทำให้ตัวเองมีความสุข มีสุขภาพที่ดี กินอิ่ม นอนหลับ เป็นทุกข์ก็หายไว ทำชีวิตให้ก้าวหน้า ไม่จมจ่อมอยู่กับอุปสรรค ทำทั้งหมดนี้ได้ ก็ถือว่าเป็นคนเก่งทีเดียวหล่ะ เพราะน้อยคนจะทำแบบนี้ได้ การจะเป็นคนเก่งได้ต้องมีความรู้ สำคัญที่สุดคือรู้จักตัวเอง นำสิ่งที่ตัวเองเป็นอ

Memory of my Mom

คำสอนของแม่ ตลอดชีวิต ตั้งแต่เด็กจนโต แม่สอนอะไรตั้งหลายอย่าง จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง รู้เต็มหัวใจว่าแม่อยากให้เป็นคนดี สิ่งหนึ่งที่แม่สอน จำได้ และใช้มาตลอด คือ "อดทน" อดทนอยู่กับสิ่งไม่สมประสงค์ อดทนรอคอยสิ่งที่พึงหวัง ไม่แปลกที่คนเราจะท้อถอย ตราบที่เรายังเป็นมนุษย์และมีลมหายใจ สิ่งที่ต้องทำ เพียงรักษาลมหายใจนั้นไว้ อยู่กับตัวเองทุกขณะจิตของลมหายใจ สิ่งนั้นคือ ' สติ ' แม่สอนให้สวดมนต์ เพื่อรักษาความ ' อดทน ' และ ' สติ ' ให้อยู่กับตัว เป็นอะไรก็เป็นไป แต่ไม่เป็นคนไม่ได้ เป็นอะไรก็เป็นได้ แต่ชีวิตนี้ได้เป็นลูกของแม่ ก็ถึงพร้อมซึ่งความสมบูรณ์ของชีวิตที่สุดแล้ว จะกี่ปีกี่เดือนกี่วัน ก็ยังคิดถึงแม่ทุกวันเหมือนเคย หน้าแรก             สารบัญเนื้อหา