Reasonable Fuel Cost

น้ำมันแพง ใครเดือดร้อน ?

ราคาน้ำมันในประเทศไทยแพงขึ้น
ถึงวันนี้ก็เป็นที่เข้าใจได้ ... ที่จะทำใจ

ประเทศอุตสาหกรรมเขาแพง
แซงหน้าเราไปหลายสิบปีแล้ว
มัวแต่มาเทียบราคากับประเทศ
ที่ล้าหลังเราอยู่ มันก็ดูจะย้อนยุคไปหน่อย

อีกไม่กี่ปีคนไทยก็จะได้ใช้ขนส่งมวลชน
ในราคาที่จับต้องได้
รถไฟฟ้าจะมีรอบกทม.
รถไฟความเร็วสูงจะวิ่งทั่วประเทศ
รถบัส รถทัวร์ยังวิ่งทั่วประเทศ ทุกชั่วโมง
น้ำมันก็ให้เฉพาะคนรวยใช้เติมรถหรู
ราคาแพง ผิดหลักเศรษฐกิจตรงไหน

จริงๆ แล้วมีสักกี่คนที่เดือดร้อนจริงๆ

ยานพาหนะจดทะเบียนในประเทศไทย
มีมากกว่า 38 ล้านคัน
เป็นจักรยานยนต์เกินครึ่ง
9 ล้านคันเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
ที่เหลือเป็นรถเพื่อการขนส่ง
คนที่เดือดร้อนจริงๆ คือคนกลุ่มน้อย
ไม่กี่ % ของประชากร
คนที่ไม่มีรถยนต์ เดือดร้อนซะที่ไหน
ถ้าบอกของแพงขึ้น เพราะน้ำมัน อันนี้จริง
แต่ผู้บริโภคเดือดร้อนหรือเปล่า
ในเมื่อทุกวันนี้ก็แทบจะไม่จับจ่าย
อะไรกันอยู่แล้ว

เมื่อต้นทุนสินค้าขยับ ผู้ประกอบการ
ก็ต้องปรับราคาสินค้า มันคือกลไกตลาด
ส่วนขึ้นราคาแล้ว สินค้าจะขายได้
หรือไม่ได้ เราก็เห็นกันอยู่

ถึงตอนนี้ต้องมาคุยกันเรื่องประสิทธิภาพ
ข้ามเรื่องต้นทุนไปได้เลย
ในเมื่อน้ำมันก็เป็นสินค้าอุตสาหกรรม
ที่ราคาแปรผันตามต้นทุนเหมือนกัน
รัฐบาลของทุกประเทศ
สามารถโอบอุ้มผู้บริโภค
ได้เพียงระดับหนึ่ง
หากคนในชาติร่ำรวย
ถอยรถยนต์ออกมาขับกันเป็นว่าเล่น
ก็เกินกำลังที่ใครจะช่วยไหว
ประชาชนนั่นแหละที่จะต้องดูแลตัวเอง

ดูตัวอย่างต้นทุนพลังงานในญี่ปุ่น
แพงทุกอย่าง แต่ประเทศก็ก้าวไปข้างหน้า
ประชาชนพร้อมใจกันใช้ขนส่งมวลชน
ลดปัญหาต้นทุนประเทศ
ที่สำคัญประหยัดเงินในกระเป๋า

การวางแผนการเดินทาง
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง

เดินทางด้วยรถทัวร์มันแพง
ก็หันมาใช้รถไฟบ้างก็ได้

รฟท. ยังเต็มใจขาดทุนเพื่อคนไทย
แต่ถ้าใช้บริการมากๆ รัฐอาจจะเหลียวแล
ทำให้รฟท. มีกำไรบ้างก็ได้ ... สักวันหนึ่ง

ต้นทุนโลจิสติกส์ของไทย
สูงกว่าประเทศ G7
ทั้งๆ ที่น้ำมันถูกกว่า
ดูประเทศที่น้ำมันราคาถูกสิ
เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วหรือยัง
เพราะรัฐมัวแต่อุ้มประชาชน
ด้วยนโยบายประชานิยม
โดยไม่ลืมตาดูโลก
ว่าเขาก้าวไปถึงไหนกันแล้ว

ในชาติที่พัฒนา
ประชาชนล้วนพึ่งพาตนเอง
มุ่งเน้นการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย

เพราะประสิทธิภาพการบริหารทรัพยากร
เราไปเทียบกับประเทศที่ด้อยกว่า
เช่นประเทศไทยในอดีต
ก็เป็นการคิดแบบถอยหลังเข้าคลอง
การประท้วงด้วยการไม่เติมน้ำมัน
ไม่พอใจก็งอแง กระแทกส้นเท้าปึงปัง
คือวิธีการโต้ตอบผู้ใหญ่แบบเด็กๆ
เพราะคนที่เดือดร้อน คือตัวเราเอง
ไม่ต้องไปพูดถึงประเทศชาติหรอก

เมื่อภาษีคือรายได้ของรัฐ
ในการบริหารประเทศ
จะแห่ไปเติมหรือจะเลิกเติมยี่ห้อไหน
สุดท้ายเงินก็เข้ากระเป๋าของรัฐอยู่ดี

พึ่งพาตนเอง
ด้วยการหาทางเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย
คือหนทางของความอยู่รอดที่แท้จริง
โตแล้ว ตรองเอง

ใครจะมาหาเสียงเรื่องน้ำมัน
กับประชาชนตอนนี้ ตบหัวมันโลด
ต้นทุนน้ำมันในประเทศที่มีต้นทุน
ทางเศรษฐกิจสูง มันก็แพงกันหมดแหละ


Comments

Popular posts from this blog

Enjoy Your Work, Enjoy Your Life

การตลาดวิถีพุทธ

6Qs สร้างสรรค์ผลงาน สร้างความเบิกบานให้ชีวิต