Business Diversification

นักพัฒนาธุรกิจกับภารกิจปิดทองหลังพระ

ในสภาวะที่บริษัทถึงทางตัน สินค้าที่มีในมือ
เริ่มขายยาก ทำกำไรให้กิจการลำบาก
ถึงคราวที่ต้อง diversify กระจายความเสี่ยง
มองหาธุรกิจใหม่ๆ ช่องทางใหม่ๆ สินค้าใหม่ๆ
แล้วจะทำอย่างไร ในฐานะที่เป็นเจ้าของกิจการ
ที่ต้องเป็นผู้ริเริ่มโดยตำแหน่ง เขี่ยบอลให้หน่ะได้
แล้วใครจะสานต่อและดำเนินการจนจบโครงการ
สำหรับภารกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์และตลาดใหม่ๆ
(Product & Market Development)

ปัญหาหนักอกที่เถ้าแก่มักจะพบคือพนักงานขาย
ไม่ชอบขายสินค้าใหม่ ช่องทางใหม่ ธุรกิจใหม่
เป้าการขายปียังติดมือ เห็นช่องทางใหม่แต่ก็ไม่ชัด
ไม่รู้จักสินค้าใหม่ ไม่เคยขาย ไม่อยู่ในเป้าประจำปี
อยากทำก็อยากทำ คอมมิสชั่นก็งามล่อใจนะ
แต่กลัวทำไม่ได้แล้วถูกตำหนิไง

นักพัฒนาธุรกิจ (Business Developer) น่าจะพอ
มีประโยชน์สำหรับภารกิจปิดทองหลังพระแบบนี้
เพราะต้องทำงานภายใต้เป้าหมายที่ไม่ชัดเจน
หนทางเข้าสู่เป้าหมายก็ไม่ชัดเจน หากการวาง
แผนงานไม่ชัดเจน ก็ชัดเจนว่าจะออกทะเล
นักพัฒนาธุรกิจ หรือ BD ต้องเข้าใจก่อนว่า
ตนเองไม่มีหน้าที่ 'ขาย' แต่มีหน้าที่ค้นหาและสร้าง
'ความต้องการซื้อ' ให้เกิดกับ 'กลุ่มเป้าหมาย'
ทีมงานฝ่ายขายจึงเข้าปฏิบัติการ Sales Forces
เพื่อผลักดันยอดขายอย่างมีประสิทธิผล

นักพัฒนาธุรกิจต้องมีทักษะการสอบถาม รับฟัง
เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล บันทึกเพื่อประมวลผล
ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลมหภาค
การประสานงาน การสื่อสารที่ตรงเป้าเข้าใจ
การดำเนินการประชุม จัดทำรายงานสรุป
เยอะไปไหม หรือเอาแค่ทำงานเป็นทีมได้ก็พอ
เพราะต้องทำงานร่วมกับทีมขายเป็นหลัก

ถ้ามีทักษะดังกล่าวข้างต้น
อดีตพนักงานขาย อดีตนักวิจัยทางการตลาด
อดีตนักส่งเสริมการขายภาคสนาม
ก็สามารถทำงานนี้ได้ รายได้ตามที่เรียกร้อง
เพราะหาคนมาทำตำแหน่งนี้ยากเต็มที
ไม่ต้องรอให้นายจ้างประกาศรับสมัคร
เขียนแผนการทำงาน ความจำเป็นของภารกิจ
ที่มีต่อองค์กรในสภาวการณ์ของตลาดปัจจุบัน
เพื่อเสนอตัวเข้ามานำพาบริษัทให้ผ่านพ้นวิกฤติ
ถ้านายห้างไม่พิจารณาข้อเสนอ ก็ดูจะใจดำกับ
บริษัทที่ตนเองตั้งมากับมือไปสักหน่อยละ


Comments

Popular posts from this blog

Enjoy Your Work, Enjoy Your Life

การตลาดวิถีพุทธ

6Qs สร้างสรรค์ผลงาน สร้างความเบิกบานให้ชีวิต