Time to Leave

เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล

คนทำงานทุกคนน่าจะเข้าใจวลีหรือสุภาษิตข้อนี้เป็นอย่างดี

ไม่น่าเชื่อว่าในระยะสิบปีย้อนหลัง
ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้กับคนใกล้ตัวมามากกว่าสิบกรณี
นับเฉพาะที่เรารู้จักกันนะ ไม่นับที่ผมรู้จักเขาแต่เขาไม่รู้จักผม
มีตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงสุด ระดับบริหารจัดการ จนกระทั่งระดับปฏิบัติการ
ดูมันเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายสำหรับผู้ที่ถูกกระทำ ที่เฝ้าครุ่นคิดว่าได้ทำอะไรผิดไป
ไม่ผิดหรอกครับ แค่ไม่ถูกใจ แล้วก็ถูกยัดเยียดข้อหาที่เราไม่สามารถหาข้อโต้แย้งได้
เพราะมันไม่มีเหตุผล หรือข้ออ้างใดๆ ที่จะเอามาอธิบายได้เลยน่ะสิ
สุดท้ายก็ต้องเดินจากลาสถานที่ทำงานที่รักโดยจำนนแบบงงงง
คนที่ตั้งหลักไว ก็ไปต่อเร็ว ไม่เสียเวลาแม้แต่จะคิดหาเหตุผล
เพราะรู้ว่า นี่คือสัจธรรมของลูกจ้าง ไม่ช้าก็เร็วแค่นั้นเอง

มันอาจไม่ใช่ข้อกล่าวหาที่ผู้บริหารพร่ำบอกว่ามันเป็นความผิด
ทั้งๆ ที่ดูแล้วมันก็ไม่ได้ผิดมากมายอะไร  หรือเคยเกิดขึ้นแล้ว  แต่ก็เฉยๆ กัน
เพราะเหตุผลที่แท้จริงมันบอกไม่ได้ ผลเสียจะตามมาอีกมากมายเกินคาดเดา

ถ้ายังจำได้ ผมเคยพูดถึงหนังสือ "ทำอย่างไรไม่ให้ถูกบีบออกจากงาน"
ที่เขียนโดย "ซินเธีย ชาปิโร่"  ที่ปรึกษาทางด้านบริหารบุคลากร
ก็มีบทหนึ่งที่กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน ลองไปหาอ่านกัน

เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ?????

เมื่อผู้บริหารรู้สึกว่า   อำนาจการบังคับบัญชาเริ่มสั่นคลอน
พนักงานไม่ได้ปฏิบัติตามนโยบายของผู้บริหารอย่างจริงจัง

แล้วนโยบายที่ว่าน่ะคืออะไร ?????

ทุกอย่างที่เป็นความต้องการของผู้บริหารน่ะสิ

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรคือความต้องการของผู้บริหาร ?????

ฟังผู้บริหารพูดแล้วนำไปปฏิบัติตาม
ทำถูกก็ไปต่อ ถ้าไม่ถูกก็โดนหมายหัว ให้โอกาสอีกหน่อย
ถ้าผิดซ้ำก็ทดเข้าไปเรื่อยๆ ผลสุดท้ายก็จะเกิดเรื่องที่เรากำลังคุยกันอยู่นี่แหละ

น่าเห็นใจผู้บริหารที่ต้องตัดสินใจกระทำต่อผู้ใต้บังคับบัญชา
การตัดสินใจปลดพนักงานออกสักหนึ่งคน ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกหรือสะใจ
แต่ความรับผิดชอบที่อยู่ในมือ        มันบีบบังคับให้ต้องทำ
ถ้าไม่ทำก็คงโดนเสียเอง จะเอาชีวิตลูกเมียมาเสี่ยงก็ตามใจ

ข้อกล่าวหายอดฮิต !!!

จงใจปกปิดความผิด
ทำงานไร้ซึ่งประสิทธิภาพ
ละเลยหรือบกพร่องต่อหน้าที่
ปฏิบัติตัวขัดต่อนโยบายของบริษัท
ยักยอก ฉ้อโกง หรือทุจริตโดยมิชอบ
ลักลอบกระทำการที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
ฯลฯ

ข้างต้นนี้ที่เคยได้ยิน มีข้อหาอะไรอีกก็เอามาแชร์กันบ้างนะครับ

ท่านที่เคยโดน ก็ไม่ต้องไปเสียกำลังใจอะไร
ร้อยละ 100 ของผู้ที่ถูกถอดถอนที่ผมรู้จักก็ก้าวหน้าไปตามสายงานเป็นปกติ
ไม่ทุกองค์กรหรอกครับที่มองท่านในแง่ไม่ดี

มีตัวอย่างผู้ที่ถูกถอดถอนท่านหนึ่ง ท่านเป็นผู้นำองค์กรระดับประเทศ
ถูกถอดถอนในข้อหาทุจริตรับสินบน   ในภายหลังจากที่ท่านถูกถอดถอน
ท่านก็ยังรับงานผู้เชี่ยวชาญ ที่ปรึกษาเฉพาะทางในสายงานของท่านตามปกติ
เอ่ยชื่อไปคนทั่วไปคงไม่รู้จัก  แต่ท่านเป็นกระบี่มือหนึ่งในวงการที่ท่านทำงานอยู่

นั่นหมายความว่า ยิ่งตำแหน่งสูงขึ้น ยิ่งเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มากมาย
ถึงท่านจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์นั้น  แต่ก็ถูกมองว่าเกี่ยวข้องได้โดยง่าย
ทำใจเถอะครับ ถ้ายังทำงานอยู่ในตำแหน่งดังกล่าว
มันมีคนจ้องจะทำร้ายเราเยอะ       โดยที่เราไม่รู้ตัว
คนคนนั้น อาจจะเป็นคนที่เราไว้ใจมากที่สุดก็เป็นได้

คนที่รักเรา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็รักเรา ไม่ว่าเราจะผิดหรือถูก
ส่วนคนที่ไม่รักเรา  อธิบายอย่างไรเขาก็มองว่าเราผิดอยู่ดี

คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ
ดีเสียอีก จะได้รู้กันไปเลย ว่าใครที่ยังเป็นเพื่อนกันอยู่


Comments

Popular posts from this blog

Enjoy Your Work, Enjoy Your Life

การตลาดวิถีพุทธ

6Qs สร้างสรรค์ผลงาน สร้างความเบิกบานให้ชีวิต