Keep Forward

ปีนี้เป็นอีกปีที่มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตเหมือนกับทุกปี นั่นคือ 'ความเปลี่ยนแปลง' เปลี่ยนงาน เปลี่ยนที่อยู่ เปลี่ยนวิถีชีวิต เปลี่ยนวิธีคิด ปีหน้าก็จะต้องออกแรงให้มากขึ้นด้วยการออกกำลังกาย ใช้แรงกายให้น้อยลงและใช้สมองให้มากขึ้นในการทำงาน

เรียนรู้ให้มากกว่าที่เคย เมื่อโลกไม่เคยรอใคร เลือกทำแต่สิ่งที่สำคัญต่อชีวิตจริงๆ เท่านั้น เมื่อโอกาสมีอยู่เต็มไปหมดและยากที่จะเลือก จนอดไม่ได้ที่จะต้องทำทุกอย่างที่อยากทำ อนาคตต้องถูกลากเส้นต่อจุดสร้างจากสิ่งที่ทำมาในอดีตผสานกับการสร้างสรรค์โอกาสด้วยแนวคิดใหม่ๆ ที่ไม่เคยไปถึงมาก่อน

คนเรามี 10 ปีไม่กี่ครั้งในชีวิต ลงมือทำ 10 ปีจากนี้ให้มีคุณค่า 10 ปีข้างหน้าค่อยว่ากันใหม่ เสียใจที่ทำแล้วผิดพลาด ดีกว่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ทำ ไม่เอาเวลาที่มีค่ามาจมอยู่กับความเสียใจ เปลี่ยนเอาความผิดพลาดมาเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ที่ไม่เคยทำ

หากเดินคนเดียว จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว เดินไปด้วยกันหลายคนไปได้ไกลกว่า ครอบครัวไม่ได้เป็นเพียงจุดกำเนิดของชีวิต แต่เป็นทั้งชีวิต อย่าทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลัง พาครอบครัวไปด้วยกันกับทุกสถานการณ์ ทั้งสุข ทั้งทุกข์ เพราะนี่คือความอบอุ่นหัวใจที่ทุกคนต่างก็คุ้นเคย โดยไม่ต้องเริ่มต้นเรียนรู้จากอะไรอีก

โลกไม่เคยหยุดหมุน คนก็ต้องไม่หยุดเดิน จะเดินช้าหรือวิ่งเร็วก็ขึ้นกับจังหวะชีวิต เวลาที่เหมาะสม ความพร้อมไม่เคยมีอยู่จริง จะสร้างมันขึ้นมา หรือจะรอจนเลยเวลา ลงมือสร้างจากติดลบ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แล้วรอให้โลกเหวี่ยงตัวเราจนตกขอบ

ความสำเร็จแรกเป็นแค่จุดพักเชิงเขา เพื่อจะก้าวต่อไปสู่ยอดดอย ยอดเขาลูกแรกเป็นแค่ความภูมิใจในอดีต หากไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายก็ยังต้องไปต่อ ชีวิตมีดำ มีขาว มีเทา มีสีสันต์ โลกจึงไม่มีด้านเดียว อยู่ที่มุมมอง ถ้าอยู่อย่างเป็นทุกข์แล้วรู้สึกดี ก็อยู่ไป แต่หัวใจและร่างกายนั้นอ่อนแอกว่าที่เรารู้

ร่างกายดี จิตใจก็ดี จิตใจดี ร่างกายก็ดี สองสิ่งนี้ต่างพึ่งพาอาศัยกัน ร่างกายและหัวใจเป็นแค่ของใช้ชั่วคราว หมดลมหายใจก็ต้องคืนโลกไป ก่อนจะไปจากโลกนี้ เราได้สร้างคุณค่าอะไรไว้ให้กับโลกบ้าง อย่างน้อยการคิดดี พูดดี ทำดีเพื่อตัวเอง ไม่เบียดเบียนกัน ก็ทำให้โลกสงบสุขได้