Posts

Showing posts from January, 2022

Just a Little Bit

Image
เด็กสมัยนี้ไม่รู้จักฟังผู้หลักผู้ใหญ่   บอกจนปากจะฉีก   ก็ยังไม่ทำตามที่บอก   แล้วนี่ยังมาทำประชด   แห่ซื้อเหรียญมาถือครองจนถล่มสถิติโลกยับเยิน   เฮ่อออ  ...  นี่เด็กสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมด  ( วะ )  😡 มาดูกันทีละเรื่อง   ว่าทำไมประชากรวัยใสชาวไทยถึงแห่กันมาถือเหรียญล้นหลามไหลขนาดนี้  ... ( จากสถิติพบว่าประชากรในวัย  16-44  ปี   หรือคน  Gen Y  ถึง  Gen Z  มีจำนวนผู้ที่ถือครองเหรียญคริปโตมากที่สุด   แต่ที่น่าสนใจกว่าคือคน  Gen X  อายุระหว่าง  55-64  ปีถือครองเหรียญคริปโตคิดเป็นมูลค่าในระดับที่กำหนดทิศทางของตลาดได้เลย ) ด้วยสถานการณ์โรคระบาด   การจ้างงานที่เคยคึกคักก็เงียบกริบ   บัณฑิตจบใหม่ตกงานกันแทบจะยกแผง   อย่าว่าแต่เด็กจบใหม่เลย   คนวัยทำงานก็ตกงานคาบ้านระหว่าง  WFH  อีกนับล้านอัตรา เด็ก  Gen  นี้ไม่อยากรอความสำเร็จเหมือนคนรุ่นพ่อแม่   เพราะพวกเขาเห็นมากับตาตั้งแต่เริ่มรู้ความว่ากว่าบุพการีจะเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงานก็ล่วงเลยมาจนถึงวันที่พวกเขาจะต้องเข้ามหา ' ลัยกันแล้ว กฎระเบียบและเงื่อนไขหลายประการที่ฉุดรั้งการย้ายข้ามสถานภาพและการเติบโตของบุคลากรอายุน้อย   ทำให้ประชากรอาย

Ag Today

ตั้งกะต้นปีเป็นต้นมา   วงการเกษตรดราม่ากันน่าดู   ไหนจะหมูเป็นอหิวาต์   ไหนจะผักจีนมาจ่อถึงประตูบ้าน   ไม่รวมสินค้าอื่นๆ   นะ   นี่ถ้าไถลไปจนถึงปลายทางสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ   พี่ๆ   ที่แอบๆ   กินกันอยู่กับผักส่งออก   คงได้นั่งกุมขมับกันทั้งดอย   แล้วนี่รู้กันรึยัง   ข้อตกลง  RCEP  มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่  1  มกราคมที่ผ่านมาแล้วนะ   สวรรค์ของผู้บริโภคชัดๆ   แต่นรกบนดินของนักผลิตอาหารดีๆ   นี่เอง   เอาเถอะ   ต้มแซ่บกันมานาน   หันมาซดต้มขมกันบ้าง   พี่น้องรอบบ้านลูบปากกันน่าดู   ใครๆ   ก็อยากเข้ามาในตลาดประเทศไทยที่มีกำลังซื้อสูงอันดับต้นๆ   ของเอเชีย   ไม่มีใครรู้หรอกว่าจริงๆ   แล้วเราจน   ปล่อยให้เข้ามากันเยอะๆ   แข่งราคากันหนักๆ   เราจะได้ซื้อสินค้าได้ในราคาถูกๆ   เงินที่ฝังกันเอาไว้ในทอง   หุ้น   คริปโต   จะได้เอาออกมาใช้กันบ้าง   ใจคอจะไม่ให้เงินบาทกระเด็นออกนอกประเทศกันเลยรึงั๊ย   😓

NCDs Crisis

ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ทำให้ผู้คนป่วยด้วยโรคติดต่อน้อยลง   แต่กลับมีอาการป่วยที่เกิดจากโรค  NCDs (Non-Communicable Diseases  หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง )  กันมากขึ้น   จนแซงหน้าโรคติดต่อไปไกลลิบ   อาการเหล่านี้   ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน   โรคเบาหวาน   โรคเครียด   โรคเก๊าท์   ฯลฯ   เกิดจากนิสัยการดำเนินชีวิต   การกิน   การทำงาน   ทำให้ค่าใช้จ่ายประชาชาติเพื่อการบำบัดรักษาสูงขึ้นจนน่าตกใจ

Realization

คนเราควรจะมีความตระหนักรู้เท่าทันในสังขารกายหยาบว่ามีความเสื่อมตามอายุขัย   อายุร่างกายยิ่งมากขึ้น   ยิ่งต้องใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น   รับประทานให้น้อยลง   เครียดให้น้อยลง   พักผ่อนให้มากขึ้น   ออกกำลังกายให้มากขึ้น   มีความสุขให้มากขึ้น

Starving Driven

นี่ถ้าไม่ต้องกินอาหาร   โลกนี้ไม่น่าจะมีคนทำงาน   โลกก็ไม่ถูกพัฒนาจนมาถึงวันนี้   วันที่ความหิวโหยไม่ใช่แรงผลักดันเพื่อการพัฒนาอีกต่อไป   ดู  ' ลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ '  ก็จะเข้าใจ   ชาวโลกก้าวข้ามความหิวโหยมาไกลหลายปีแสงแล้ว

Job-Career-Calling

โตจนป่านนี้ต้องแยกให้ออกนะว่างานไหนเลี้ยงชีพ   งานไหนเลี้ยงใจ   งานเลี้ยงใจนี่ได้เงิน   ไม่ได้เงินไม่สน   ทำเพราะรัก ทำแล้วมีความสุข   ทำเมื่อมีโอกาส   ตื่นมาก็อยากทำ   ส่วนงานเลี้ยงชีพ   แบ่งได้  3  ระดับ   งานที่เราทำได้ - งานที่ต้องเป็นเราเท่านั้นที่ทำได้ - งานที่โลกอยากให้เราทำ   เชื่อว่าทุกคนรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของคุณค่า   ซึ่งก็สะท้อนออกมาเป็นราคาที่ลูกค้า   หรือนายจ้างต้องจ่ายหล่ะอ่ะ งานที่เราทำได้   ซึ่งก็อาจจะมีอีกหลายคนในโลกที่ทำได้   ส่วนมากก็เป็นงานทั่วไปหรืองานอุตสาหกรรม   งานพิมพ์ดีด งานเอกสาร   งานประกอบชิ้นส่วน   งานในไลน์ผลิต   การประกอบอาหาร   งานประเภทนี้ถูกทดแทนได้ด้วยคนอื่นหรือเครื่องจักร   และในวันหนึ่งจะถูกทดแทนด้วย  AI  หรือ  Bot งานที่ต้องเป็นเราเท่านั้นที่ทำได้   งานเหล่านี้ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ   ตัวเราก็ต้องเป็นเอตทัคคะหรือเป็นเอกในงานนั้น ไม่มีใครทำแทนได้   แม้แต่ใครคิดจะลอกก็ยังไม่เนียนเลย   เพราะเรามีกระบวนการคิด   การทำงานที่ไม่มีใครเหมือน   เช่น งานออกแบบ   งานหัตถกรรม   งานบริหาร แล้วชาวโลกก็จะบอกว่าพวกเขาต้องการอะไรจากเรา   ต้องเป็นเราเท่านั้น   พวก

Flexibility

คน  Gen B, Gen X, Gen Y  ที่วันนี้หลายคนก็อยู่ในตำแหน่งงานระดับสูง   มีรายได้   สวัสดิการที่สูงมากจนต้องรู้สึกเสียดายหากจะต้องสูญเสียตำแหน่งงานนี้ไป   มักจะยากที่จะทำใจออกจากงานมาค้นหาตัวเองเหมือนเด็กๆ  Gen Z  นอกจากจะถูกบีบให้ออกจากงาน   จนต้องออกมาค้นหาสิ่งที่ตัวเองใช้เลี้ยงชีพในยามแก่ได้ ถึงตรงนี้ก็ต้องปรับตัวแหละ   เมื่อทุกวันนี้ก็ได้เห็นกันแล้วว่าความมั่นคงในหน้าที่การงานมันไม่มีอยู่จริง   ช่วง  COVID-19  มา   พนักงานต้องอยู่บ้านเพื่อ  WFH  บริษัทเลยรู้ว่าบางตำแหน่งไม่จำเป็นต้องมีในบริษัทก็ได้   ได้ออกจากงานกลางอากาศก็เป็นล้านตำแหน่งอย่างที่ได้ข่าวกัน   ถ้าไม่ตำแหน่งซ้ำซ้อน   งานง่ายๆ   ไม่ซับซ้อน   ก็เป็นผู้บริหารเงินเดือนสูง ตุนเงินไว้พอตัวก็ดีไป   เอาทุนมาค้าขาย   หรือเก็บไว้ใช้ยามชรา   แต่หากไม่มีเงินเก็บเลย   ก็หนักหน่อย   ไหนจะหนี้สิน   ค่าใช้จ่ายประจำวัน   บทจะหาย   ทั้งเงิน   ทั้งความคิด   ไอเดียดีๆ   หายหมดเหมือนกันนะ

Air Money

เงินหน่ะหาง่าย   ถ้าไม่เลือกงาน   ว่าแล้วก็อิจฉาเด็กรุ่นนี้   มีอาชีพให้เลือกทำเยอะแยะ   ทั้งงานประจำ   งานจ้างไม่ประจำหรือ  Part-time  งานอิสระหรือ  Freelance  หลายคนก็ทำมันทุกอาชีพเลย   นอกจากหาเงิน   ก็ยังได้ค้นหาตัวเองว่าชอบอะไร   มีอาชีพไหนที่จะต่อยอดทำเป็นธุรกิจของตัวเองได้ในอนาคต หลายคนทำงานหลายอย่าง   รายได้ก็เป็นกอบเป็นกำ   เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยสนใจตำแหน่งงานหรือความมั่นคงในงาน สำหรับพวกเขา   ความมั่นคงอยู่ที่การมีรายได้พอสมควร   ควบคุมชีวิตตัวเองได้   มีอิสระที่จะโยกย้าย   ขยับขยาย   เลือกเวลาทำงานที่สะดวกได้   มีเวลาใช้ชีวิต   ท่องเที่ยวหาประสบการณ์ได้กว้างขวาง เขาเหล่านี้จึงค้นหาตัวเองและธุรกิจที่จะเลี้ยงตัวได่อย่างรวดเร็ว   เพราะสามารถเรียนรู้จากงานที่หลากหลายได้ภายในนะยะเวลาอันสั้น   โดยไม่เสียเวลาไปกับการมัวแต่สร้างผลงานเพื่อตำแหน่งที่สูงขึ้น

Income Raise

เงินไม่พอใช้   😅   ทำไง  !  ก็ต้องหามาเพิ่ม  !!! หากยังทำงานประจำ   ก็ต้องขอทำงานเพิ่ม   เพื่อเพิ่มรายได้   ไม่ว่าจะเพิ่มปริมาณงาน   เพิ่มเวลาทำงาน   ขอทำในตำแหน่งงานที่สูงขึ้น   หรือย้ายงาน   ทั้งหมดนี้ก็ต้องพิจารณาร่วมกันกับนายจ้างว่ามีโอกาสไหม   🤔 อีกทางหนึ่งที่ไม่ต้องผ่านการพิจารณาจากนายจ้างคือการทำงานเสริม   โดยการทำอาชีพที่  2  หรือมากกว่านั้น   ทำในเวลาว่างหลังเลิกงาน   อย่างเช่น   ขับมอเตอร์ไซค์วิน   ส่งอาหาร   ทำงานในร้านอาหาร  Fast Foods  ที่ตั้งอยู่ทุกมุมถนน   ร้านสะดวกซื้อใกล้ที่ทำงานหรือใกล้ที่พัก   ขายของตามตลาดนัด   ขายของออนไลน์   ลงทุนในหุ้น   ตราสาร   เงินตราต่างประเทศ   เงินดิจิทัล   สินค้าโภคภัณฑ์   หรือเรียนรู้เพิ่มเติมในสาขาอื่น   ที่เรียกกันว่า  Reskill  แล้วรับงานมาทำที่บ้าน   แต่ควรระวัง   ไม่ทำงานประเภทเดียวกันให้กับบริษัทคู่แข่ง   โดนเรื่องจริยธรรมแน่ๆ   ออกจากงานสถานเดียว

Buying Power Down

กำลังซื้อในมือผู้บริโภคลดลง   เงินที่ยิ่งเก็บเอาไว้นานโดยไม่นำออกมาใช้จ่ายจะยิ่งมีค่าลดลง   นั่นคือผู้บริโภคกำลังถูกบีบให้ใช้จ่าย   หรือนำออกมาลงทุน   หากครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีฯ   หรือคุณพ่อคุณแม่ถูกล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่สุด  3  งวดติด   จนเอาชนะค่าใช้จ่ายประจำของตนเองได้   ก็อย่าหวังว่าชาตินี้จะมีชีวิตแบบพอเพียง   ต้องวิ่งเป็นหนูถีบจักรไปแบบนี้จนตายกันไปข้างหนึ่ง   เงินที่หามาทั้งชีวิต   หากยังเหลือถึงลูก   อย่าเรียกว่ามรดก   มันเป็นได้แค่เงินให้เปล่า   เอามาช่วยค่าน้ำไฟ   ลูกหลานก็ยังต้องลำบากต่อไปในช่วงชีวิตของเขา   นี่คือกรรมที่ชาวโลกต้องรับร่วมกันตราบที่ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมของโลกยังคงอยู่   ทำไงหล่ะทีนี้   ออกจากบ้านสิ   ออกไปหาตังค์เพิ่ม   หรือถ้ายังนอนอยู่บ้าน   ก็ต้องหาทางลงทุนเพิ่ม   อย่าปล่อยให้เงินมันเน่า   เผลอแป๊บเดียวหมดไหแน่

Inflation

3-4  ปีมานี้   ใช้เงินกันมือเติบเลย   สินค้าของใช้ดูเหมือนจะแพงขึ้น   สินค้าจำนวนเดียวกัน   ต้องใช้เงินมากขึ้นในการซื้อหา   ข้าวปลาอาหารก็ต้องจ่ายเงินมากขึ้นกว่าในอดีตสำหรับปริมาณเท่าเดิม   เมื่อ  30  ปีก่อน   เงิน  100  บาท   กินจนอิ่มทั้งวัน   เดี๋ยวนี้ต้องใช้จ่ายมากกว่า  200  บาทเพื่อให้อิ่มเท่าเดิม   สถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่เพราะข้าวของแพงขึ้น   แต่เงินถูกลดค่าลง   เราเรียกสถานการณ์แบบนี้ว่า  ' เงินเฟ้อ '  ซึ่งเกิดจากเงินมีมูลค่าในตัวเองลดลงโดยการถูกกระทำด้วยความตั้งใจ   จากปริมาณเงินที่ถูกพิมพ์ออกมามากกว่าที่จำเป็นต้องมี   เงินที่ถูกหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจึงมีมากกว่าในอดีตเมื่อเปรียบเทียบกับที่ต้องใช้จริง   เงินกระดาษที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันมูลค่าจึงปลิวว่อนเต็มตลาดไปหมด   ผู้ที่ได้รับผลกระทบจึงเป็นประชาชนผู้ที่ต้องใช้เงินจับจ่ายครองชีพอย่างเลี่ยงไม่ได้